คลังเรื่องเด่น
-
ห้องประสบการณ์หลวงพ่อเกษม เขมโก สามารถเข้ามาคุยกันได้ครับ
ประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก
ณ ดินแดนถิ่นล้านนา ทางภาคเหนือของประเทศไทย พระอริยะสงฆ์ที่พวกเราทุกคนรู้จักชื่อเสียงคุณงามความดีของท่าน ก็คือ ครูบาศรีวิชัย อริยะสงฆ์องค์แรกของภาคเหนือท่านเปรียบเสมือนประทีปดวงใหญ่ ที่ส่องประกายธรรมไปทั่วทุกสารทิศ ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ประกอบคุณงามความดีไว้กับแผ่นดินนี้มากมาย ท่านจึงถูกจัดให้เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวเหนือ
ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ของท่าน จึงถูกบันทึกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงในยุคปัจจุบัน ประวัติบางตอน ของครูบาศรีวิชัยตอนหนึ่ง กล่าวว่าท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ว่าจะมีตนบุญมาเกิดที่ลำปาง ครั้นต่อมาครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพไปโดยทิ้งคำพยากรณ์นี้ไว้ ให้ชาวลำปางได้เฝ้ารอคอยการมาจุติของตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ชาวลำปางก็ยังเชื่อในคำพยากรณ์ของครูบาศรีวิชัย
เมื่อปี พ.ศ.2455 ได้มีครอบครัวเชื้อเจ้าผู้ครองนครลำปางหรือเขลางค์นครในอดีตหัวหน้าครอบครัวคือ เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ รับราชการเป็นปลัดอำเภอภรรยาชื่อเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง... -
เคราะห์กรรมของคนช่างนินทา
เคราะห์กรรมของคนช่างนินทา
เรื่องโดย วารี
คุณเคยได้ยินกลอนบทนี้ของท่านสุนทรภู่บ้างไหม
“อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน แค่องค์พระปฏิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา”
แม้คำนินทาจะอยู่คู่โลกทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ดิฉันก็ไม่คิดว่าการพูดนินทาคนอื่นจะเป็น “กรรม” หนักหนาสาหัสอะไร เพราะใครๆก็คงเคยพูดนินทาทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจกันมาบ้าง
ครั้งหนึ่งดิฉันเคยไปฟังพระเทศน์เกี่ยวกับการนินทา พระท่านเป็นผู้มีความรู้ จึงคิดบัญญัติศัพท์เกี่ยวกับการนินทาด้วยคำชวนหัวว่า นินทาวิทยา ( Gossipology ) ตามความหมายและคำแปลจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานให้ความหมายว่า นินทาคือ “คำติเตียนลับหลัง”
แต่พระท่านว่า หากพิจารณาจากที่ไปที่มาและสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ในสังคมอาจหมายรวมไปถึงการตำหนิ เพราะผู้พูดไม่ชอบใจ ผู้พูดไม่สบอารมณ์ และไม่ตำหนิต่อหน้าหรือไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือนต่อหน้า แต่กลับนำเรื่องของเขาไปตำหนิลับหลัง ทั้งๆที่เขาเป็นคนดี ทั้งๆ ที่เขาทำดีอยู่แล้ว เพราะการนินทาหมายถึง การเล่าเรื่องในทางที่ไม่ดี เล่าเรื่องในแง่ที่ไม่ดีของคนอื่นลับหลัง... -
การรู้แจ้งในขณะนั่งลืมตาของหลวงปู่บุดดา ถาวโร
พรรษาที่ ๔ ตัดกิเลสบรรลุธรรม
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ พอใกล้เข้าพรรษา ท่านทั้งสองได้ไปจำพรรษา ณ วัดป่าหนองคู จ.นครสวรรค์ และพอออกพรรษาก็กลับมาร่วมปฏิบัติธรรม ณ ถ้ำภูคา จ.นครสวรรค์ โดยต่างเร่งความเพียรเจริญสมณธรรม อย่างเต็มที่เกือบจะไม่ได้พักผ่อน และในคืนวันหนึ่งเวลาประมาณระหว่าง ๒๐.๐๐ น. ถึง ๒๓.๐๐ น. ซึ่งเป็นเวลาสนทนาธรรมของทั้งสองท่าน หลวงพ่อสงฆ์ได้ถามหลวงปู่บุดดาว่า
“...ยังถือวินัยอยู่หรือ”
หลวงปู่ตอบว่า “...ไม่ถือวินัยได้ไง ถ้าเราจะเดินผ่านต้นไม้-ของเขียวก็ต้องระวัง...มันจึงเป็นอุปาทานทำความเนิ่นนานต้องช้ามาถึง ๔ พรรษา”
หลวงพ่อสงฆ์ว่า “วินัยมันมีสัตว์-มีคนรึ”
หลวงปู่บุดดาว่า “มีตัวซี ถ้าไม่มีตัวจะถือวินัยได้ยังไง...วินัยก็ผู้ถือนั่นเอง ...เสขิยวัตร ๗๕ เป็นตัวไม่ได้หรอก ...เนื้อหนัง กระดูก ตับไต ไสพุง มันไม่ใช่ตัวถือวินัย...ตัวถือวินัยเป็นธรรมนี่”
....เถียงกันไป เถียงกันมาชั่วระยะหนึ่ง... พอปัญญา-บารมีเกิดขึ้นตกลงกันได้ว่า “เอ๊ะ ! ไม่มีจริง ๆ เน้อ ...ผู้ถือไม่มี มีแต่ระเบียบของธรรมเท่านั้น ไปถือมั่น-ยึดมั่นไม่ได้นี่”
พอหยุดความลง... -
เสียงธรรม ไวพจน์-พุทธประวัติ
ไวพจน์ เพชรสุพรรณ : แหล่พุทธประวัติ / ทำขวัญนาค -
การเข้าพระนิพพานในวิธีที่ง่ายและลัดตรงที่สุด โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
***การเข้าพระนิพพาน***
ในวิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด
โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
สำหรับการที่จะเข้าพระนิพพานนั้น...
จิตจะต้องถูกฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งก็แยกย่อยออกไปได้หลายวิธี...
แต่วิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด คือ...
1. ไม่สงสัย เชื่อมั่น และเคารพ
พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด (สุดจิตสุดใจ) ตลอดชีวิต
... ซึ่งความเชื่อนี้ รวมไปถึงพระธรรมคำสอนในข้อที่ว่า...
นิพพานัง ปรมัง สุขัง...
*พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง*
นิพพานัง ปรมัง สูญญัง...
พระนิพพานเป็นที่ที่สูญจากกิเลส จากอวิชชาทั้งมวล
จากพระธรรมทั้ง ๒ ประโยคนี้...
ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า พระนิพพานเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง
ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านประทับอยู่จริง...
เมื่อเราเชื่อมั่นอย่างสุดจิตสุดใจว่า พระนิพพานมีจริง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระองค์อยู่จริง...
การที่เราจะได้มโนมยิทธิหรือไม่นั้น... ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด...
สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ความเชื่อมั่น...
เชื่อมั่นว่าพระนิพพานมีอยู่จริง...
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมีอยู่จริง...... -
เพียงวันละ 10 นาที ก็สามารถพ้นนรกเข้าถึงนิพพานได้
คนที่ปฏิบัติเพื่อพระนิพพานจะใคร่ครวญอย่างไรจึงจะง่ายและสั้นที่สุด ท่านตรัสว่า เจ้าจงใคร่ครวญอย่างนี้
จงคิดว่าเราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย ทรัพย์สินก็ไม่มี ญาติ เพื่อน ลูก หลาน เหลนก็ไม่มี แม้ร่างกายเราก็ไม่มี เพราะทุกอย่างที่กล่าวมามีสภาพพังหมด เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่ เมื่อสิ้นภาระคือร่างกายพังแล้ว เราจะไปพระนิพพาน
เมื่อความป่วยไข้ปรากฏจงดีใจว่า ภาระที่เราจะมีโอกาสเข้าสู่พระนิพพานมาถึงแล้ว เราสิ้นทุกข์แล้ว คิดไว้อย่างนี้ทุกวัน จิตจะชินจะเห็น เหตุผล เมื่อจะตายอารมณ์จะสบายแล้วก็จะเข้านิพพานได้ทัน
........................................................................................................
ทีนี้คนไหนต้องการจะไปพระนิพพานก็เป็นของไม่ยาก สัมพเกษี ให้เขาคิดเห็นว่า
โลกนี้ทั้งโลก ไม่มีอะไรที่เราชอบ ไม่มีอะไรที่เรารัก เราไม่รักอะไร เราไม่ชอบอะไรในโลกนี้ แม้แต่ร่างกายของเราเองเราก็ไม่ชอบไม่รัก เพราะมันเต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยความทรมาน แล้วให้ใคร่ครวญหาความจริงในโลก จะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม มันมีสภาพคงตัวได้ตลอดกาลหรือเปล่า ถ้ามันมีการเปลี่ยนแปลง... -
หลวงพ่อเกษม เขมโก เผชิญอสุรกายป่าช้าแม่อาง
หลวงพ่อเกษม เขมโก เผชิญอสุรกายป่าช้าแม่อาง
ชื่อ เสียงกิตติคุณของ หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อครั้งที่ท่านยังไม่ละสังขารขันธ์ ขจรขจายเลื่องลือกว้างไกล ไปในหมู่พุทธบริษัท ณ ที่ท่านจำพรรษา มีพุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้สักการะด้วยความเคารพศรัทธาท่าน เนืองแน่นทุกวัน แม้จะไม่ได้พบตัวท่าน ก็ขอได้กราบนมัสการกุฏิหลังน้อยที่ท่านพักผ่อนอยู่ภายใน ก็เกิดปีติปราโมทแล้ว เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ผู้ใกล้ชิดที่สุดได้มาจากบันทึกสั้นๆ เป็นคำบอกเล่าของ เจ้าประเวท ณ ลำปาง ซึ่งเป็นหลานของท่าน มีความว่า....
เวลานั้นเจ้าประเวทบวชเป็น สามเณร คอยรับใช้อุปัฏฐากหลวงพ่อเกษม อยู่ที่ป่าช้าแม่อาง ปฏิปทาของหลวงพ่อเกษม ท่านพอใจจำพรรษาในป่าช้ามาโดยตลอด เสนาสนะของท่านคือกระต๊อบหลังเล็กๆ ที่ญาติโยมปลูกสร้างถวาย ขณะที่เกิดเหตุนี้ สามเณรประเวทนอนอยู่กับพระหวันอีกที่หนึ่ง (พระหวันบวชหน้าไฟเพียง ๗ วัน เนื่องจากบุพการีเสียชีวิต แล้วนำศพมาเผาที่ป่าช้าแม่อาง ในวันนั้นพระหวันบวชแล้วก็ขออยู่ในป่าช้ากับหลวงพ่อเกษม)
เช้าวัน รุ่งขึ้น....สามเณรประเวทมาหาหลวงพ่อเกษมที่กระต๊อบกุฏิเพื่อปรนนิบัติท่าน... -
เสียงธรรม “หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า” พระเถระของไทย
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
หลวงปู่ศุข วัดคลองมะขามเฒ่า ท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาจากพระอาจารย์ของท่าน
ในด้านวิชาวิทยาคม ทั้งนี้หลวงปู่ศุขยังเป็นพระที่เคร่งในวัตรปฏิบัติ
และพระวินัยอย่างเคร่งครัด วัตถุมงคลของหลวงปู่ศุข
โด่งดังทางด้าน เมตตามหานิยม
และแคล้วคลาดคงกระพันโดยเฉพาะเรื่องป้องกันเขี้ยวและงา -
การดันกระทู้ที่ไม่สมควรกระทำ
คนๆ เดียวกันแต่เข้าชื่ออื่นๆ มาทำทีเป็นผู้สนใจโพสต์ในกระทู้ของตน
ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่ามีผู้สนใจเรื่องราวในกระทู้จริงๆ
สมาชิกที่โพสต์ใน Website พลังจิตไม่ควรทำอย่างยิ่ง
พบเห็นจะเตือน - แบน หรือหากฝ่าฝืนด้วยเหตุต่างๆ อาจแบนทุกชื่อทั้งหมด
สมาชิกควรกระทำโดยสุจริตต่อตนเองและผู้อื่น
สมาชิกสามารถช่วยกันดูแล หากพบเห็นสิ่งไม่ปกติ ไม่ชอบมาพากล กดปุ่มแจ้งเตือนที่โพสต์นั้นๆ แจ้งมาที่ทีมงาน ชื่อและข้อมูลที่ผู้แจ้งส่งมา
เป็นความลับจึงวางใจได้ไม่ต้องกังวลหวาดระแวงแต่ประการใด
ทางทีมงานจะตรวจสอบและดำเนินการตามสมควรต่อไป
หมายเหตุ
การดันกระทู้เจ้าของกระทู้ควรใช้ชื่อที่โพสต์ในกระทู้นั้นๆ ดันกระทู้จึงเหมาะควร
อนุโมทนา -
มรณานุสสติ...(หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
มรณานุสสติ
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
ความเกิดมีแล้ว ความแก่ ความตายมันก็มีอยู่ ไม่มีใครพ้นตาย เกิดก็เกิดเต็มแผ่นดิน ตายก็ตายเต็มแผ่นดิน อยู่เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอยู่นี้แหละ ความตายเต็มแผ่นดินอยู่ เป็นเป็ด ไก่ หมู หมา เขาก็ตาย มนุษย์ชายหญิงก็ตาย ใครล่ะ เกิดมาแล้วไม่ตาย
ถ้าเกิดมาขวางโลกเขา เกิดมาแล้วไม่ตาย ไม่เฒ่า ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ขวางบ้าน ขวางแผ่นดิน ขวางโลก เขาอยู่ได้อย่างไร ให้ภาวนา มรณานุสสติอยู่อย่างนี้แหละ
เป็นเป็ดเป็นไก่มันก็ตาย เป็น วัว ควาย ช้าง ม้า หมู หมา เขาก็ตาย คนแก่ก็ตาย คนหนุ่มก็ตาย ถ้ากลัวตายมีใครพ้นตายไหม ทุกคนทุกสิ่งสรุปลงสู่ความตายทั้งหมด
เป็ด ไก่ วัว ควาย หมู ปลา ถ้ามันไม่ตายเอง เขาก็ฆ่าเอาให้มันตาย อยู่ในสภาพไหนล่ะมันจะพ้นจากความตาย ถึงจะมีอายุผ่านพ้นไปร้อยปีพันปี มันก็ต้องตายอยู่นั่นแหละ สัจจธรรมข้อนี้ใครๆ ก็พ้นไปไม่ได้ นั่งอยู่ก็ตาย นอนอยู่ก็ตาย กินอยู่ก็ตาย ไม่กินก็ตาย เจ็บป่วยอยู่ก็ตาย ไม่เจ็บไม่ป่วยมันก็ตาย ความตายมันมีอยู่ทุกฐานะทุกสถานที่
ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย มันครอบงำเราอยู่ทุกเมื่อ พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงเสีย แม้อบายโลก... -
เทวดาที่วัดบวรฯ
บทความนี้นํามาจาก อารยาฟอรั่ม • View topic - เทวดาที่วัดบวรฯ
วันเสาร์ที่ผ่านมาดิฉันได้นำอาหารไปถวายพระสงฆ์ที่วัดใกล้บ้านเช่นที่เคยทำทุกสัปดาห์
ปกติท่านเจ้่าอาวาสจะเทศนาเป็นภาษาอังกฤษแก่ผู้ที่ภาษาไทยไม่แข็งแรง(รวมทั้งลูกๆ
ของดิฉันด้วย) แต่สัปดาห์นี้ ท่านตอบคำถามของคุณแม่สามีของดิฉัน
คุณแม่เป็นคนที่กลัวผีมาก และเพิ่งกลับจากไปเที่ยวที่ Smoky Mountains, Tennessee
ท่านเล่าว่าถูกคนดึงขาถึงสองคืนที่พักอยู่ที่นั่น พบว่าโรงแรมสร้างอยู่ข้างๆสุสาน ท่านจึง
ถามว่า "ผี" มีจริงหรือไม่? ท่านเจ้าอาวาสจึงกล่าวว่า "อาตมามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง แล้วโยม
คิดกันเอาเองว่า "ผี" มีจริงหรือไม่? แล้วท่านก็เล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ ที่แปลเป็นไทย
ได้คล้ายๆแบบนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2510 ได้มีชาวต่างชาติคนหนึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย
ชาวต่างชาติผู้นี้มีความนิยมชมชอบในวัฒนธรรมไทย และยังศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่าง
แรงกล้า เมื่อมาอยู่เมืองไทยจึงชอบที่จะไปท่องเที่ยวตามวัดวาอารามต่าง ๆ
อยู่มาวันหนึ่งฝรั่งต่างชาติคนนี้ก็นั่งแท็กซี่มาที่วัดบวรนิเวศฯ แต่เช้าตรู่ รถก็พามาจอดตรงประตูทางเข้าพระอุโบสถ... -
การแผ่เมตตาช่วยแม่จากนรกได้ : หลวงพ่อจรัญ
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมโม วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เล่าในหนังสือกฎแห่งกรรมเรื่องการแผ่เมตตาไว้ว่า:
การแผ่เมตตาจะต้องมีสมาธิก่อน มีพลังส่ง มีเมตตาในตัวเองก่อน แล้วค่อยแผ่อุทิศให้เขาจะได้ผล ถ้าโยมปราศจากเมตตาอย่าอุทิศ ไม่มีได้ผล ไม่ได้ผลจริง ๆ อาตมาทำมาแล้ว แผ่ได้ผลต้องมีเมตตาครบอย่างต่ำ ๘๐% ไม่อย่างนั้น แผ่ไม่ออกหรอก เหมือนยิงปืนตกปากกระบอกไม่มีแรงส่ง ขาดสมาธิ ขาดสติปัญญา ขาดความสามารถ ขาดความเชี่ยวชาญในการฝึก ต้องฝึกให้คุ้นเคยทุกวัน ไม่ใช่นั่งแล้วได้ทุกคน...............
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเรื่องเล่า กรรมฐานอุทิศส่วนกุศลช่วยแม่ผูกคอตายขึ้นมาจากนรกได้
มีโยมคนหนึ่ง ไม่ต้องออกชื่อรับราชการ ซี.๗ ยังไม่มีครอบครัว อยู่กับแม่ ๒ คน บ้านใหญ่โตแถวบางกะปิ เขาไม่ทราบแม่เขาแท้ที่จริงเป็นน้าสาว เลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ และไม่ทราบว่าพ่ออยู่ที่ไหน แต่ก็รู้ว่าอยู่แถว ๆ ถนนสุขุมวิท พ่อเลิกกับแม่เขาไป
เขามานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ ๒ ครั้ง ๆ ละ ๗ วัน ลาพักร้อนมาโยมไม่ทราบเหตุการณ์อื่นใดทั้งสิ้น นั่งกรรมฐาน ๗ วัน ครั้งแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งที่สอง มานั่งกรรมฐานกลับไปได้เรื่องออกมาเลย
แม่ตัวจริงมาเข้าฝัน... -
เสียงธรรม อุบาย“หักอาลัย”ในเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ อ่านโดย สมาชิกพลังจิต
เคยมีคำทำนายเกี่ยวกับเนื้อคู่ของหลวงปู่แหวน เมื่อสมัยที่เรียนมูลกัจจายน์ที่จังหวัดอุบลราชธานี
ได้มีหมอดูทำนายว่าเนื้อคู่ของท่าน
จะมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้ารูปใบโพธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร
ด้วยชีวิตนี้ท่านได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระศาสนาแล้ว
จึงขอกล่าวถึงข้อความตอนหนึ่งในหนังสืออนุสรณ์หลวงปู่แหวน
เกี่ยวกับในช่วงที่จิตของท่านนึกเห็นแต่หน้าของหญิงนางนั้น
ที่สุดท่านก็ได้บังคับจิตของท่านให้หลุดออกจากห้วงนั้น
โดยใช้อุบายธรรมพิจารณาเหตุผลในทีละอย่าง
จนท่านก็ประสบความสำเร็จ เนื้อความในหนังสือที่ยกมากล่าวอ้างนี้ความว่า
วันหนึ่ง หลวงปู่แหวนได้มาพักบำเพ็ญอยู่ที่บ้านนาสอง เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่พอสมควร
พวกชาวบ้านถิ่นนั้นมีแปลกอยู่อย่างคือ
เวลาเห็นพระไปบิณฑบาต พวกเขาจะป่าวร้องกันมาใส่บาตรว่า
“มาเน้อมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว
หาน้ำอ้อยน้ำตาลมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว ท่านชอบของหวาน”
เมื่อได้ยินคนร้องประกาศเช่นนั้น ต่างก็เอาของมาใส่บาตรจนเต็ม
พวกนี้เหมือนกับพวกไทยใหญ่ ไทยใหญ่ถ้าเห็นพระไปบิณฑบาต
เขาจะใส่บาตรด้วยน้ำอ้อยน้ำตาลกับข้าวเช่นกัน พวกเขาถือว่าเจ้บุ๊นไม่กินเนื้อสัตว์... -
สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ได้อานิสงส์อานุภาพแรงมาก
หากพูดเรื่องการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ทุกคนก็นึกถึงพระสงฆ์องค์เจ้าทั้งหลายที่อยู่ตามวัดวาอาราม หรือผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น จริงๆ แล้วการสวดมนต์ไหว้พระ ควรเป็นข้อปฏิบัติประจำของเหล่าชาวพุทธทั้งหลาย โดยเฉพาะการสวดมนต์ ไหว้พระในวันวันธรรมสวนะ หรือวันพระ หากเราพิจารณาความสำคัญของการสวดมนต์โดยเปรียบเทียบกับทุกศาสนา เราจะพบว่ามีปฏิบัติกันถ้วนหน้าทีเดียว ชาวคริสต์ต้องเข้าโบสถ์สวดมนต์
ทุกวันอาทิตย์ อิสลามิกชนก็จะมีการสวดมนต์ทุกวันสำคัญ และมีการละหมาดวันละ 6 เวลาทีเดียว เบื้องต้นน่าจะเห็นพ้องต้องกันว่าการสวดมนต์เป็นสิ่งที่ดี แต่คำถามที่มักจะได้ยินเสมอว่าก็คือ ดีอย่างไร
หากเรามองย้อนไปในอดีตตอนพวกเราๆ เป็นเด็ก จะพบว่าในรุ่นปู่ย่า ตายายของเรา แทบจะทุกคนที่จะไปวัดเพื่อสวดมนต์ ไหว้พระในวันพระเสมอ และยังมีการสวดมนต์ที่ค่อนข้างยาวทีเดียวก่อนนอนทุกวัน
หลายผู้อาจจะไปนั่งพนมมือด้วย หลายผู้ก็นอนฟังแล้วก็หลับไป หลายผู้อาจถูกปลูกฝั่งให้ปฏิบัติเอาเยี่ยงบ้าง
ก็มีผมเคยถามท่านทั้งหลายในรุ่นนั้น ว่าสวดมนต์ ไหว้พระแล้วได้อะไร ก็มักจะได้คำตอบว่า “ มันดี ”ทำให้ชีวิตดี หรือชีวิตมีสิริมงคล... -
การสละออกจากใจ
จาโค ปฏินิสสัคโค สละคืนถอนออกจากใจนี้เสีย
คนเรามันรักสุข เกลียดทุกข์นี่ หนักก็หนักอยู่ตรงนี้แหละ ไม่รับความจริง
เราเกิดมา นินทา สรรเสริญก็ดี อย่าไปรับเอามาหมักไว้ใจ ปล่อยผ่านไปเสีย
ความรัก ความชัง ความโลภ ความหลง เกิดขึ้น เพราะกิเลสมันเสวนากันอยู่
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาทั้งหลาย ก็ไหลมาจากเหตุ ให้ละเสียให้หมด ให้ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในการบำเพ็ญกุศล ละบาปทางกาย ทางวาจา ทางใจ บาปอันใดยังอยู่ละเสียให้หมด กายทุจริต วาจาทุจริต ใจทุจริต นำออกให้หมด แล้วรักษากายสุจริต วาจาสุจริต ใจสุจริตไว้ เมื่อนำทุจริตออกหมดแล้วจะเหลือแต่สุจริตธรรม ตั้งอยู่ในศีล กายก็เป็นศีล วาจาก็เป็นศีล ใจก็เป็นศีล เป็นธรรม เป็นมรรค เป็นผล ตั้งขึ้นในจิตในใจ ละวางทุจริตธรรม สุจริตธรรมตั้งอยู่แล้ว จิตก็เบาสบาย
อดีตที่ล่วงไปแล้ว ยังหอบเอามาหมักไว้ในใจก็เดือดร้อน ต้องเอาศีลนั่นแหละนำออกให้หมด
ธรรมปฏิบัติ เรื่องต้องน้อมเข้ามาสู่ใจ
ให้รักษาพระไตรสรณคมน์ให้แน่นหนา รักษาพระไตรสรคมน์ให้ตลอดชีวิต รักษากาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ อย่าลืมตัว เอาใจนี้แหละเป็นผู้รู้ ให้พิจารณากาย ใจนี้ให้รู้แจ้ง
ที่มา : Board... -
เสียงธรรม “บทสวดมนต์ชุมนุมเทวดา”จากสมาชิกพลังจิต
“บทสวดมนต์ชุมนุมเทวดา”
KeLBeRoS
จากสมาชิกพลังจิต
คาถาชุมนุมเทวดา
สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง
ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตวานะ
เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา
ปะริตตัง ภะณันตุ
สัคเค กาเม จะรูเป คิริสิขะระตะเฏ
จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ
คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะ
วัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา
ชะละถะละ วิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระวะ จะนัง
สาธะโว เม สุณันตุ
ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา
ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา -
หลวงปู่คำคะนิง ท่องอบายภูมิ!!!
หลวงปู่คำคะนิงท่านเล่าให้ฟังถึงเรื่องโลกวิญญาณ คือโลกหลังความตาย อันเป็น “โลกทิพย์” หรือ “ทิพยภูมิ” จะเรียกว่าปรโลกได้ทั้งนั้น
หลวงปู่คำคะนิงเล่าว่า
หลังจากออกพรรษาแล้วปีพ.ศ. 2523 หลวงปู่คำคะนิง ยังคงอยู่ที่ถ้ำคูหาสวรรค์ ริมฝั่งโขงอำเภอบ้านด่าน จังหวัดอุบลราชธานี
ท่านตั้งใจจะเข้าฌานสมาบัติสัก 15 วันเพื่อเป็นการแผ่กุศลอานิสงส์สนองความดีของทายกทายิกาผู้สงเคราะห์ท่านตลอดมาในฤดู
กาลพรรษา
ฉะนั้นหลวงปู่คำคะนิงจึงประกาศสั่งทายกทายิกาไว้มิให้ขึ้นมาทำบุญตักบาตรหรือรบกวนในระหว่าง 15 วันที่ท่านเข้าฌานสมาบัติอยู่นั้น แต่ให้ขึ้นมาทำบุญตักบาตรได้ในวันที่ 16
หลวงปู่คำคะนิงเคยบำเพ็ญเพียรภาวนาอดอาหาร 7 วันและ 15 วันมาตั้ง 40 ปีแล้วจนร่างกายเคยชินถือเป็นเรื่องธรรมดา ร่างกายไม่อ่อนเพลีย หิวโหยแต่อย่างใด
หลวงปู่คำคะนิงอดอาหารได้อย่างไร
หลวงปู่ให้อรรถาธิบายว่า
ก่อนเข้าสมาธิภาวนาจะต้องกำหนดไว้ก่อนว่า เราจะเข้าสมาธิลึกขั้นอัปปนาสมาธิ ระคับฌานที่ 1 ถึงฌานที่ 4 เป็นเวลากี่วันกี่คืน
เมื่อกำหนดได้แล้ว... -
พระธรรมคือภูมิคุ้มกันชีวิตของ "อ๊อด คีรีบูน"
พระธรรมคือภูมิคุ้มกันชีวิต ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว 'อ๊อด คีรีบูน'
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อวัยรุ่นในยุคสมัยคุณน้าคุณอาคงไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องนำรูปหล่อ ที่มีบุคลิกภาพสุขุมลุ่มลึกแห่งวงคีรีบูนในนาม ‘อ๊อด คีรีบูน’ หรือ ‘รณชัย ถมยาปริวัฒน์’ ที่เป็นขวัญใจสาวๆ หนุ่มๆ ในยุคนั้นกันทั้งบ้านทั้งเมือง
วันนี้เขาได้พลิกบทบาทชีวิตของตัวเองจากการเป็นศิลปินถ่ายทอดเสียงเพลงอันไพเราะให้แฟนเพลงทุกคนได้ซาบซึ้ง มาเป็นครูสอนดนตรีให้กับเด็กๆ โดยนำเสียงเพลงที่เขาชอบเป็นชีวิตจิตใจมาถ่ายทอดเป็นวิถีทางดนตรีแนวใหม่ เพื่อ ‘ปฏิรูปการศึกษา’ หรือ Music Genius สำหรับเด็ก
ทว่าใครเลยจะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้นอกจากจะใช้ความสามารถทางดนตรีที่มาอยู่มาตกผลึกเป็นความรู้อย่างลุ่มลึก เพื่อถ่ายทอดให้กับเด็กๆ ที่เข้าเรียนแล้ว เขายังตั้งใจฝักใฝ่เรียนรู้เรื่องธรรมะอย่างแน่วแน่ และขอปวารณาตนทำงานเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่เมื่อสบโอกาส
ดังนั้น เมื่อคราวที่ประเทศต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่แตกในปี พ.ศ.2540 บ้านเมืองได้รับความ เดือดร้อนไปทั่วทุกย่อมหญ้า อ๊อดในฐานะที่เป็นศิลปิน และเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของ หลวงตามหาบัว... -
พญานาคขึ้นมาขอฟังธรรมจากหลวงปู่แฟ้บ
๏ พญานาคขึ้นมาขอฟังธรรมจากหลวงปู่แฟ้บ
พรรษาที่ ๑๐ หลวงปู่ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ภูกิ่ว อำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่ที่ภูกิ่ว หลวงปู่ได้รับความลำบากและขัดสนในเรื่องของอาหารมาก แต่การภาวนาขณะที่อยู่ที่นี่ หลวงปู่ได้ปัญญาธรรมให้พิจารณาถึงความทุกข์ที่ทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏฏะสงสารนี้มากมาย และมีอยู่คืนหนึ่งขณะกำลังภาวนาอยู่ พญานาค ๓ ตัวมากราบนมัสการและสนทนาธรรมกับหลวงปู่ตลอดคืน หลวงปู่ได้บอกถึงลักษณะของพญานาคที่ได้เห็นไว้ว่า มีลักษณะคล้ายงูจงอาง แต่มีขนาดตัวยาวและใหญ่มาก ประมาณต้นมะพร้าว มีเกล็ดคล้ายแก้วสีฟ้าใส มีสีสวยงามมาก
ในพรรษานั้น มีโยมจากบ้านโพนไคและบ้านจาร อำเภอบ้านม่วง ได้ตามไปนิมนต์ให้กลับมาวัดป่าดงหวาย ดังนั้นเมื่อออกพรรษาแล้วจึงกลับมาที่วัดป่าดงหวาย
รูปปั้นพญานาค หน้าโรงแรมบ้านกะรนบุรี รีสอร์ท หาดกะรน จ.ภูเก็ต
พรรษาที่ ๑๑ จนถึงปัจจุบัน การก่อสร้างศาลาของวัดป่าดงหวายยังไม่สำเร็จ เมื่อหลวงปู่กลับมาที่วัดป่าดงหวายในครั้งนี้ หลวงปู่ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาต่อจนแล้วเสร็จ และสร้างกุฏิเพิ่มขึ้นอีกหลายหลัง แต่การปฏิบัติภาวนาของหลวงปู่ก็ไม่ได้ย่อหย่อนลงเลย... -
อานิสงส์การบวชในพุทธศาสนา...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ภาพงานอุปสมบทหมู่ ๑๐๘ รูป ฉลองอายุวัฒนมงคล ๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
อานิสงส์การบวชในพุทธศาสนา...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
อานิสงส์การบวช ต่อแต่นี้ไป จะนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธ เจ้า ว่าด้วยเรื่อง อานิสงส์การบรรพชา มาคุยกับบรรดาท่านพุทธบริษัท ความมีว่า
องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์เมื่อทรงพระชนม์อยู่ องค์สมเด็จพระบรมปรารถเรื่องการอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสว่า การอุปสมบทบรรพชานี้มีอานิสงส์พิเศษ อานิสงส์ อย่างอื่น มีการสร้างวิหารทานก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี ทอดกฐินผ้าป่าก็ดี จัดว่าเป็นอานิสงส์สำคัญ แต่อานิสงส์นี้นั้น บุคคลที่จะพึ่งได้ต้องโมทนาก่อน หมายความว่า ถ้าบุตรธิดาของตนบำเพ็ญกุศล บิดามารดาไม่โมทนาย่อมไม่ได้ แต่ว่าการอุปสมบมบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า สมมุติว่า บุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดาวันนั้น บิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อ ลูกกับแม่ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่บรรพชานั้น บิดามารดาก็ไม่ทราบ แต่ทว่า ถึงอย่างก็ดี องค์สมเด็จพระชินศรีตรัสว่า... -
ธรรมะที่ทำให้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามลำดับของการบรรลุ
ธรรมะที่ทำให้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามลำดับของการบรรลุ
วันที่พระพุทธเจ้า ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตอนนั้นก็มีเรื่องอัศจรรย์ตอนที่พระพุทธเจ้าประทับตัดสินพระทัย ว่าจะต้องการบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณที่นี่ เป็นวันกลางเดือนหก เป็นฤดูฝน มาวันหนึ่งมีคนบอกว่ามีฝนตกลงมา พระยานาคมาขดตัวเป็นแท่น แล้วก็แผ่พังพานป้องกันฝนไม่ให้ถูกองค์สมเด็จพระทศพล คนเกิดวันเสาร์จึงทำพระนาคปรก แต่รู้สึกนาคจะมีหัวมากไปสักหน่อย เนื้อแท้จริง ๆ นาคมีหัวเดียวแผ่พังพานออกไม่ใช่แผ่ให้หัวงอกออกมาตั้งหลายหัว แบบนี้มันไม่ถูก ลูกที่นั่งฟังทั้งหมดจะสงสัยไหมว่า ถ้าสมมติว่าพระยานาคท่านนั้นไม่มาแผ่พังพานให้พระพุทธเจ้า ฝนตกลงมาพระพุทธเจ้าจะเปียกไหม อันนี้เราต้องไปคิดว่า พระโมคคัลลาน์ เวลาไม่ต้องการให้ฝนเปียก ท่านจะเปียกไหม มันก็ไม่เปียก ไม่ต้องการให้แดดถูกตัวท่าน แดดก็ไม่ถูก
ตอนนี้เราก็มาดูพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นครูของพระโมคคัลลาน์ ในเมื่อลูกศิษย์ทำได้อาจารย์จะทำได้ไหม เพราะวิชาทั้งหลายเหล่านั้นไปจากอาจารย์ เป็นอันว่าเป็นความดีของพระยานาคที่ท่านสงเคราะห์ แต่บังเอิญถ้าพระยานาคท่านไม่สงเคราะห์... -
เสียงธรรม ด้วยรักบันดาล...นิทานสีขาว
ทั้งหมด ๙๗ เรื่อง
จากหนังสือ
ด้วยรักบันดาล นิทานสีขาว ทั้ง ๔ เล่ม
ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
คุณสุพัตรา แซ่ลิ่ม รวบรวม/เรียบเรียง
(เสียงอ่านโดย ณาฏาฌาร์ เกสรดอกจาน) -
ขอให้ฝนเลี่ยงห่าง..หลวงปู่แหวน
ขอให้ฝนเลี่ยงห่าง
เมื่อหลวงปู่เห็นว่า ไม่มีทางหลบฝนได้แน่แล้ว
จึงได้รวบรวมกำลังกายลุกขึ้นนั่งสมาธิ
ตั้งสัจจาธิษฐานอ้างเอาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
อ้างถึงบุญบารมีที่ได้บำเพ็ญตนด้วยดีมา ตั้งแต่บวชว่า
" ข้าพเจ้าบวชอุทิศตนต่อพระพุทธ ต่อพระธรรม ต่อพระสงฆ์
วันนี้ ข้าพเจ้าเดินทางมาเพื่อ จะไปลำปาง เกิดอาการไข้
หมดกำลังที่จะไปข้างหน้า ถ้าบุญบารมีของข้าพเจ้ามีอยู่
พอที่จะได้ บำเพ็ญพรหมจรรย์เืพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์แล้ว
ขอฝนอย่าได้ตกลงมาตรงที่ข้าพเจ้าอยู่นี้เลย"
แล้วหลวงปู่ก็แผ่เมตตาต่อเทพารักษ์ สิ่งที่เจ้าที่ทางอธิษฐาน
บอกกล่าวแก่เขาว่า
" ข้าแต่เทพารักษ์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เ้จ้าทาง ตลอดจนนาค ครุฑ
ผู้มีอำนาจทั้งหลายก็ดี วันนี้ ข้าพเจ้าเดินทางมาจะไปลำปาง มาป่วยอยุ่กลางป่า
หมดกำลังที่จะไปข้างหน้า ขอให้ท่านทั้งหลาย อาศัยความเอ็นดูข้าพเจ้า
ขอได้โปรดบันดาลด้วยอำนาจฤทธิ์ของตนๆ ให้ฝนซึ่งกำลังตกมานี้
ได้เว้นตรงที่ข้าพเจ้าอยู่ตรงนี้ ขอไห้เปลี่ยนทิศทางไปทางอื่น
การที่จะห้ามฝนไม่ให้ตกนั้นมิใช่ฐานะ
แต่ขออย่าได้ตกลงมาตรงที่ข้าพเจ้าอยู่ ขอให้ผ่าน ไปทางอื่น "
เป็นที่น่าอัศจรรย์... -
สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ อโหสิกรรมก่อนค่อยแผ่เมตตา
การสวดมนต์เป็นนิจนี้ มุ่งให้จิตแนบสนิท ติดในคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ จิตใจจะสงบเยือกเย็นเป็นบัณฑิต มีความคิดสูง ทิฏฐิมานะทั้งหลาย ก็จะคลายหายไปได้ เราจะได้รับอานิสงส์ เป็นผลของตนเองอย่างนี้ จากสวดมนต์เป็นนิจ
การอธิษฐานจิตเป็นประจำนั้น มุ่งหมายเพื่อแก้กรรมของผู้มีกรรม จากการกระทำครั้งอดีต ที่เรารำลึกได้ และจะแก้กรรมในปัจจุบัน เพื่อสู่อนาคต ก่อนที่จะมีเวรมีกรรม ก่อนอื่นใด เราทราบเราเข้าใจแล้ว โปรดอโหสิกรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย เราจะไม่ก่อเวรก่อกรรมก่อภัยพิบัติ ไม่มีเสนียดจัญไรติดตัวไปเรียกว่า เปล่า ปราศจากทุกข์ ถึงบรมสุข คือนิพพานได้ เราจะรู้ได้ว่ากรรมติดตามมา และเราจะแก้กรรมอย่างไร ในเมื่อกรรม ตามมาทันถึงตัวเรา เราจะรู้ตัวได้อย่างไร เราจะแก้อย่างไร เพราะมันเป็นเรื่องที่แล้ว ๆ มา
การอโหสิกรรม หมายความว่า เราไม่โกรธ ไม่เกลียด เรามีเวรกรรมต่อกันก็ให้อภัยกัน อโหสิกันเสีย อย่างที่ท่านมาอโหสิกรรม ณ บัดนี้ ให้อภัยซึ่งกันและกัน พอให้อภัยได้ ท่านก็แผ่เมตตาได้ ถ้าท่านมี อารมณ์ค้างอยู่ในใจ เสียสัจจะ ผูกใจโกรธ อิจฉาริษยา อาสวะไม่สิ้น ไหนเลยล่ะท่านจะแผ่เมตตาออกได้... -
นั่งสมาธิอายุยืนจริงหรือ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
นั่งสมาธิอายุยืนจริงหรือ
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
จากหนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม ๗
ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมีมากมาย เป็นที่น่ายินดีว่าได้มีการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือได้ ลองพิจารณาบทความเรื่อง “ชีวิตก้าวหน้า” ของนิวตรอน ดังต่อไปนี้
พิสูจน์ได้แล้ว การทำสมาธิ ทำจิตใจให้ว่าง เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ยังคงดูหนุ่มสาว ชั่วแต่เพียงทำให้ได้วันละแค่ ๒๐ นาทีเท่านั้น
รายงานการศึกษาอันน่าตื่นใจ เปิดเผยในวารสารเวชศาสตร์พฤติกรรม เล่มใหม่ กล่าวว่า ผู้ทำสมาธิจะมีปริมาณฮอร์โมนอายุยืนในร่างกาย มากเท่ากับผู้ที่หนุ่มสาวกว่าตั้ง ๕ - ๑๐ ปี พร้อมกับสอนว่าเพียงแค่หาที่นั่งสมาธิตามมุมสงบ จะนั่งเก้าอี้หรือนั่งกับพื้นก็ได้ ปล่อยตัวตามสบาย นั่งหลังตั้งตรง แล้วทำจิตใจให้ว่างเท่านั้น
“การนั่งสมาธิทำให้เรารู้จักชีวิต มีขันติ และจิตใจสบาย” หมอเจย์ แกลเซอร์ ที่ศูนย์สาธารณสุข ที่เมืองแลงคาสเตอร์ รัฐแมสซาจูเส็ตต์ กล่าวและบอกว่า “ความแก่ชรานี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่น มันก็คือความเครียดที่ฝังสะสมอยู่มานานนั่นเอง” การศึกษาคุณประโยชน์ของการทำสมาธิครั้งนี้... -
อานิสงส์กฐินทาน ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้และหลวงพ่อปานบอกไว้ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
อานิสงส์กฐินทาน ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้และหลวงพ่อปานบอกไว้
ต่อไปนี้ จะพูดถึงอานิสงส์กฐิน เอาย่อๆนะ อานิสงส์ในการถวายกฐิน หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายถวายสังฆทาน สังฆทานวันนี้เป็นสังฆทานของกฐิน การถวายสังฆทานทุกอย่างมีผลควบกับกฐิน เพราะเป็นวันของกฐิน ความจริงการทอดกฐิน ไม่ใช่ประเพณีนิยม เป็นพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ผ้ากฐินทาน จะรับได้ก็ต่อเมื่อถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 หลังจากนั้น จะทอดขนาดไหนก็ตาม จะไม่เป็นกฐิน ฉะนั้น กฐินมีเวลากาลจำกัด
ทีนี้ ว่าถึงอานิสงส์กฐิน อานิสงส์กฐินนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเคยเทศน์ และก็เทศน์ตามบาลี ท่านพูดถึงอานิสงส์ให้ทราบ ฉะนั้น การถวายวันนี้ทั้งหมด เมื่อวานก็ดี วันนี้ก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม จะเป็นของก็ตาม ถือว่าทุกอย่าง เป็นอานิสงส์กฐิน
ต่อไปนี้ก็โปรดทราบ จะนำพระสูตรตามที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีให้ทราบ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยพระองค์เกิดเป็น"มหาทุคคตะ" ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระปทุมมุตระ" เวลานั้น พระพุทธเจ้าของเรา เกิดเป็นคนจนอย่างยิ่ง เป็นทาสของคหบดี เวลานั้น... -
เสียงธรรม ประวัติหลวงพ่อปาน (ม้วน 1-16)
ประวัติหลวงพ่อปาน (ม้วน 1-16)
โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
กดฟังไฟล์จะเรียงจาก 1-16 ^-^ -
เสียงธรรม รวมเสียงธรรมท่านจิตโต
มีเยอะมากครับ จะทยอยลงให้ฟังจนครบนะครับ
หน้า 411 ของ 414