ด่าหลวงพ่อ...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วันนี้มีคนมารายงานบอก มีคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อตายไปแล้วบอกว่าลำบาก เขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ อีตอนลำบากนี้ไม่รู้ลำบากแบบไหนน่ะ ฉะนั้นพวกที่ได้มโนมยิทธิ ถ้าได้แล้วจริงๆ เขาเคยซักซ้อมแล้ว ทางที่ดีก็ไปเช็คบัญชีที่พระยายม ไปดูบัญชีด้วยนะ ว่าบัญชีเขาเขียนตัวสีอะไร ถ้าเขียนตัวสีแดงก็ดีใจได้เลยว่า ลงนรกแน่นอน ก็แก้ได้นะ วิธีแก้ก็อย่างที่เชียงรายเชียงใหม่ใช่ไหม คู่หูยกทรง (ทายก) นี่ บารมีเหมือนกัน เขาฉลาด เขาเป็นพระโพธิสัตว์ ฉลาดมาก จะแนะนำอะไรก็ตามต้องแนะนำอย่างย่อๆ หัวข้อเขารู้หมด เข้าใจหมด แกบอกว่า แกรับตรงๆ คนตรงๆ แบบนั้นหายาก รับตรงๆ ว่าสมัยก่อนโน้นเคยด่าพระพุทธเจ้า เคยด่าหลวงพ่อ พี่สาวเลื่อมใสหลวงพ่อไปเล่าให้ฟังด่าหลวงพ่อต่อไป ใครเขาจะให้ทานหาว่าโง่เง่าเตาตุ่น แกรับ คนอย่างนี้หายาก เขารับจริงๆ และเวลาแรกเจริญมโมยิทธิไปพบแม่เขา ร้องให้ใหญ่ วันที่สองครูพาซ้อมๆ ตั้งแต่นิพพานถึงอเวจี คล่องขนาดนั้น เห็นอเวจี เห็นโลหกุมภีสดใสมาก ไฟแดงฉานหมดนะ แล้วต่อมาในขั้นสุดท้ายตอนจะจบ ครูถามว่า ใครสงสัยอะไรบ้างให้ถาม คนอื่นเขาก็ถามก็บอกวิธีแก้ให้ ทีนี้มาถึงแก แกคิดจะไม่บอก แกบอกว่าได้ยินเสียงที่หูว่า บอกครูเขาๆ แกเลยบอกครู บอกว่าเห็นบัญชีพระยายมตัวสีแดงนูนใหญ่ ชื่อนามสกุลครบถ้วน และลงท้ายว่าอเวจี น่าเลื่อมใสมาก ครูก็เลยบอกว่าถ้าอย่างั้นให้ขอขมาพระรัตนตรัย พอขมาพระรัตนตรัย สีหนังสือเปลี่ยน เป็นสีน้ำเงินแกมดำ และต่อมาให้ถามพระพุทธเจ้าว่า ปฏิบัติอย่างนี้จะสามารถไปนิพพานได้ไหม พระพุทะเจ้าบอกว่า ถ้าปฏิบัติอย่างนี้ไปเรื่อยๆไป จะไปนิพพานได้ และการไปดูชื่อบัญชีพระยายมเป็นของดี ตัวสีทองก็ต้องก่อนนะ ว่าทองปลอมหรือทองจริง ก็เป็นอันว่าการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัทอย่าประมาณในชีวิต จงคิดไว้เสมอว่า ชีวิตเราต้องตาย อันนี้เป็นมรณานุสสติกรรมฐาน ที่ปฏิบัติกันนี้ก็หมายความว่า พระพุทธเจ้าต้องการให้เราพ้นทุกข์ การที่จะพ้นจากความทุกข์ได้ ก็คือ ทาน ศีล ภาวนา 3 อย่าง ถ้าหากว่าเรามีแต่ ศีล มีแต่ ภาวนา 2 อย่าง เกิดชาติหน้าเป็น คนสวย เป็นคนมีปัญญา แต่ไร้ทรัพย์ เป็นคนยากจนเข็ญใจ อันนี้ไม่ดี ถ้าทานบารมีเฉยๆ ขาดศีล ก็เป็นคนไม่สวย ถ้า ขาดภาวนา ปัญญาก็ทื่อ เป็น คนโง่ แต่ว่ามี ทาน บารมีก็เป็นคนสวยได้ รวยประเภทไหนไม่สวย รวยประเภทโง่ ฉะนั้น ก่อนที่จะตายก็ขอท่านพุทธบริษัท ทุกคนต้องให้มีผลทั้ง 3 อย่าง 1. ทาน การให้ เป็นปัจจัยตัดโลภะ ความโลภ เราให้ทานแต่ละครั้งจิตใจก็ขาดจากความโลภครั้งหนึ่ง ทีละหน่อยๆ เมื่อให้บ่อยๆ จึงมีอารมณ์ชิน คิดว่าการให้ทานเป็นของดีเป็นปัจจัยให้เกิดความรักระหว่างเรากับเขา เป็นเหตุให้มีเพื่อนสนิท มีความสุขเพราะเพื่อนมาก ก็อาศัยการให้ทาน และอีกประการหนึ่ง จิตใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทท่านไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติของใครโดยไม่ชอบธรรม คิดอย่างเดียวต้องการให้ทาน ถ้าไม่เกินวิสัย เพราะการให้ทานพระพุทธเจ้าแนะนำให้ต้องพอดีๆ ก็หมายความว่าถ้าให้แล้วเดือดร้อน อย่าให้ ถ้าเรามีน้อยเกิดไปให้แล้วเราเดือดร้อนก็ยังไม่ควรจะให้ ให้แล้วเราไม่เดือดร้อนควรจะให้ อย่างนี้เป็นปัจจัยของทาน จะเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งในอนาคตในชาติหน้า ให้เรามีความสุขด้วยทรัพย์สิน ประการที่ 2 พระพุทธเจ้าให้เป็นมีศีล ศีล นี้มีผลหลายอย่าง คือ 1. จะเป็นคนมีอายุยืนยาวนาน มีโรคน้อย และก็เป็นคนสวย นี่เฉพาะศีลข้อที่ 2. ศีลข้อที่ 2 จะเป็นคนมีทรัพย์สมบัติไม่มีอันตราย ไฟไหม้บ้าน น้ำไม่ท่วม ลมไม่พัด ขโมยไม่ลัก 3. ศีลข้อที่ 3 ถ้ามีคนในปกครองไม่ดื้อด้าน ว่าง่ายสอนง่าย เชื่อฟัง 4. ศีลข้อที่ 4 ถ้ามีไว้จะมีวาจาเป็นทิพย์ พูดอะไรใครก็อยากฟัง 5. ศีลข้อที่ 5 ถ้ามีไว้จะไม่เป็นโรคปวดศีรษะ และไม่เป็นโรคประสาท และก็จะไม่เป็นโรคบ้า นี่เฉพาะศีลนะ ต่อไปการ ภาวนา ก็เป็นเหตุให้จิตใจมีความสุข ถ้าเกิดมาชาติหน้าก็จะเป็นคนมีจิตใจเยือกเย็น มีอารมณ์ความสุข และมีความฉลาด วันนี้เราพูดถึงเรื่องกรรมฐาน พูดถึงศีลใช่ไหม คำว่าทานเป็นจาคานุสติกรรมฐาน ถ้าเรานึกถึงทานพุทธบริษัท เป็นจาคานุสติกรรมฐาน เพียงแค่เราคิดอยู่เสมอ แต่ยังไม่ทันจะให้ จิตใจมีการทรงตัวในการคิดให้ทาน ถือว่าว่ามีฌานในจาคานุสสติ ถ้านึกถึงศีลเป็นสีลานุสสติกรรมฐาน ถ้าระมัดระวังศีลเป็นปกติ ชื่อว่าเป็นผู้มีสมาธิในสีลานุสติกรรมฐาน โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 22 หน้า 110-111 คัดมาบ้างส่วน นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ บทขมาพระรัตนตรัย สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ (ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ.... ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ ) หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จ- พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ จากหนังสือสวดมนต์แปล วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
อนุโมทนา สาธุ ขอผลบุญในการเผยแพร่ธรรมะนี้จงเป็นปัจจัยให้ท่าน teporrarit และท่านทั้งหลายที่ร่วมอนุโมทนา ได้ถึงซึ่งพระนิพานในชาตินี้ด้วยเถิด
เรื่องนี้เป็นหัวข้อที่ดีมากครับ ขอกราบอนุโมทนาด้วยครับ รวมทั้ง ขอขมาต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ด้วยครับ
เกิดไปเป็นเปรตเพราะด่าพระสงฆ์ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่องเล่าผ่านกาลเวลา :- Published on Jul 18, 2017 เกิดเป็นเปรตเพราะด่าพระสงฆ์ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ