พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

3795.ล็อกเกตพุทโธคลัง คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม รุ่น บันดาลทรัพย์คลังมหาสมบัติ ที่ระลึก ชาตกาล 131 ปี พ.ศ. 2568 ให้บูชา 750 บาท

​

จัดสร้างโดย ครูบาวราศักดิ์ ญาณวิชโย วัดสันป่าม่วง จ.พะเยา
ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง เมตตาอธิษฐาน
พิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ณ ธรรมสถาน ม่อนกุเวร อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
ล็อกเก็ต สี่เหลี่ยม ขนาดจัมโบ้
สร้างจำนวน 999 องค์
พระภาวนาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต 4 รูป
1. พระครูบาดวงจันทร์ เขมรโต วัดมะกับตอง เชียงใหม่
2. พระครูประภัศร์ธรรมรังสี (ครูบาจันต๊ะรังษี) วัดกู่เต้า เชียงใหม่
3. พระครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน
4. พระอาจารย์วราศักดิ์ ญาณวิชโย พะเยา

 

3796. พระกลีบบัวเขาอ้อ มหาว่านจันทร์เพ็ญ ปี 2535 ให้บูชา 550 บาท
สมบูรณ์ด้วยวิทยายุทธเขาอ้อ ทั้งพิธีกรรมฤกษ์ยามทางโหราศาสตร์ มวลสารทางไสยศาสตร์ การประจุพุทธาคม และ การกำหนดจิตอธิฐานอย่างพุทธศาสตร์

​

จัดสร้างโดยพ่อท่านคล้อย อดีตเจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พระเกจิอาจารย์หนึ่งในศิษย์สายเขาอ้อ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเรืองเวทวิทยาคมขลัง
* เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนทั่วไปทั้งในและนอกประเทศ แม้ท่านจะมรณะภาพไปนานปีแล้ว แต่ปัจจุบันสังขารท่านก็ไม่เน่าเปื่อย
* พระกลีบบัวมหาว่าน นับเป็นสิ่งมงคลสักการะตำนานความเข้มขลังแห่งสำนักตัดศิลาเขาอ้อ ที่พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา เคยร่วมกับพระอาจารย์นำและท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช เคยจัดสร้างไว้ตั้งแต่ยุคสงครามอินโดจีน ด้วยเหตุนี้พระคณาจารย์สายเขาอ้อในยุคหลัง จึงได้สืบทอดจัดสร้างพระกลีบบัวมหาว่านเรื่อยมา
* พระกลีบบัวมหาว่านจันทร์เพ็ญ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2535 ตามแบบโบราณจารย์ อายุการสร้างผ่านมาแล้ว 29 ปี เป็นการจัดสร้างโดยพ่อท่านคล้อยและพระเณรภายในวัด จึงไม่สวยคมชัดเหมือนสร้างจากโรงงาน นับเป็นอิทธิมงคลวัตถุอันทรงคุณค่า มีเรื่องราวกล่าวขานมากประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือ มีประวัติการจัดสร้างและมีพิธีพุทธาภิเษกที่ได้บันทึกไว้ชัดเจน
* เป็นพระดีราคาเบาพระเก่าพุทธคุณเข้มขลัง ควรค่าแก่การอาราธนาบูชาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง โปรดอย่าพลาดโอกาส พระดีที่คู่ควรแก่การสะสมบูชา มีจำนวนจำกัด
พ่อท่านคล้อยและทางคณะศิษย์พร้อมด้วยพุทธบริษัทของทางวัด ได้ร่วมมือร่วมใจกันกราบอาราธนาดวงวิญญาณอมตะ ของปรมาจารย์สำนักวัดเขาอ้อ ขออนุญาติจัดสร้างพระกลีบบัวและพระสังกัจจายน์เนื้อผงมหาว่านจันทร์เพ็ญ เพื่อจะได้สมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์
.
การสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ ได้ปฏิบัติ ตามตำรับโบราณดั้งเดิมของสำนักวัดเขาอ้อทุกประการ เริ่มด้วยการรวบรวมผงวัสดุมวลสารมาผสมผสานเพื่อให้บังเกิดกฤตยาคมเข้มขลังตั้งแต่เนื้อในหรือที่โบราณจารย์เรียกว่าดีใน อันประกอบด้ายแร่ธาตุอาถรรพ์ ว่านมงคลนาๆชนิด ผงพุทธคุณมากมายรวมทั้งผงว่านพระประทานพรปี2513 พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ผงว่านวัตถุมงคลวัดบ้านสวนอาจารย์ชุม ไชยคีรีปี 2511 นอกจากนี้ศิษย์ฆราวาสสำนักเขาอ้อผู้เรืองเวท คือท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชก็ใด้มอบผงมวลสารที่เปี่ยมกฤตยานุภาพ อาทิ ผงพระกลีบบัวมมหาว่านปี 2483 ผงว่านหลวงพ่อทวด วัดช้างให้รุ่นแรกปี 2497 ผงมวลสารสำคัญมากมาย ที่ท่านใช้สร้างพระหลวงพ่อทวดฉลองอายุ 100 ปีให้ผสมผสานด้วย
ส่วนผสมตามสูตรมหาว่านยา ผงมหาว่านขาวดำ รุ่นสงครามอินโดจีน ผงพุทธคุณเจ้าอธิการนุ้น สหสสเตโส วัดสุวรรณวิชัย ผงพุทธคุณ อาจารย์จุล ลานเซะ ผงพระพุทธ อ.ปลอด วัดหัวป่า ผงพุทธคุณ100ปี วัดสุทัศน์ ที่ได้มาสมัยอาจารย์นำ แก้วจันทร์ ผงว่านยาแช่สำนักเขาอ้อ ผงพุทธคุณ อ.คง วัดบ้านสวน ผงปูนองค์พระบรมธาตุ นครศรีฯ ผงเกษรดอกไม้108ชนิด ผงกาฝากไม้108ชนิด ผงของพระครูกาชาด ผงยาวาสนาสูตรเขาอ้อ ผงเก่าวัดสุนทราวาส ผงพุทธคุณอาจารย์ขุนพันธรักษ์ราชเดช ผงตะใคร่เจดีย์ ผงแป้งลูกนิมิต9วัด ผงตะใคร่สีมา ผงตะใคร่มหาโพธิ์ ผงยาเพ็ญเดือน5ตำหรับเขาอ้อ ผงดินปูชนียสถานประเทศอินเดีย ผงพระภูธราวดี ดินรูปูปิด 108 รู ดินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดพัทลุง
ในการสร้างผสมผงพุทธคุณต่างๆ ตามสูตรของสำนักเขาอ้อมีดังนี้
1.ผงปัถมัง
2.ผงพทธคุณสังฆคุณ
3.ผงตรีนิสิงเห
4.ผงพุทธินิมิตร
5.ผงสูตรพระปิติ
6.ผงพระนอโม
7.ผงนะคาบสำเร็จ
8.ผงรัตนะมาลา
.
พิธีพุทธาภิเษกเพื่อให้บรรลุคำว่าดีนอกตามตำรับโบราณจารย์ ใด้กำหนดการประกอบขึ้น 3 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2535 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 เริ่มจุดเทียนชัย เวลา 15.29 น. และดับเทียนชัยในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2535 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เพ็ญวันจันทร์ เดือน 12 เวลา 01.39 น. (เริ่มวันใหม่ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2535) ณ.อุโบสถวัดภูเขาทอง ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
.
โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงเวทวิทยาคมในสายสำนักวัดเขาอ้อ มาร่วมนั่งปรกปลุกเสกจำนวนหลายท่านดังนี้
1.พระครูพินิจวรกิจ(พ่อท่านคล้อย อโนโม) เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง จุดเทียนชัย
2.พระครูกาชาด (พระอาจารย์บุญทอง) เจ้าอาวาสวัดดอนศาลา ประธานในพิธีพุทธาภิเษก
3.พระครูศิริวัฒนการ (พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร) วัดดอนศาลา
4.พระครูแก้ว ธมมิโก (พระอาจารย์แก้ว) วัดโคกโดน
5.พระครูธรรมนาถสุนทร (พระอาจารย์เนื่อง นาถธมโน) วัดไทรงาม
6.พ่อท่านคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร
7.พระครูขันตยภรณ์ (พระอาจารย์พรหม ขนติโก) วัดบ้านสวน
8.พ่อท่านกลั่น อคธมโน (หลวงพ่อกลั่น) วัดเขาอ้อ
9.พ่อท่านเทพ รวิวณโณ วัดประดู่เรียง
10.พระมหาชวน (อาจารย์ชวน) วัดโคกเนียน
11.พระมหาจรูญ (อาจารย์จรูญ) วัดวิโรจน์ประชาราม จ.นราธิวาส
12.พ่อท่านอินทร์ วัดควนปันตาราม
13.พระครูสังฆรักษบุญราย วัดศรีพรหมพิพิธ สิงค์โปร์
14.พ่อท่านสมปอง วัดพรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช
15.พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง
.
พระคณาจารย์สวดพิธีกรรมพุทธาภิเษก โดยวัดอินทราวาส จ.พัทลุง
ศิษย์ฆราวาสผู้เรืองอาคมสำนักวัดเขาอ้อร่วมกันเป็นเจ้าพิธีกรรมประกอบด้วย
1.อาจารย์ พล.ต.ต ขุนพันธรักษ์ราชเดช มือปราบขมังเวท ประธานเจ้าพิธี
2.อาจารย์แจ้ง เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเจ้าพิธี
3.อาจารย์ประจวบ คงเหลือ ผู้ช่วยเจ้าพิธี
4.อาจารย์สนธิ วิสูตรธนวิทย์ ผู้ช่วยเจ้าพิธี
.
ในการประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ตามตำราไสยศาสตร์โบราณของสำนักเขาอ้อ ถือกันต่อมาว่าเป็นมหาอุตย์ด้วยโชคศ อุดมด้วยมหานิยมมหาลาภอันประเสริฐ อุดมด้วยปัญญาวาสนา หลังพิธีในเวลาเที่ยงคืน บรรดาพระคณาจารย์ใด้ประพรมน้ำมนต์จันทร์เพ็ญสู่พระกลีบบัวและพระสังกัจจายน์มหาว่านจันทร์เพ็ญ ตามตำรากล่าวไว้ว่าให้ทำน้ำมนต์ในคืนเพ็ญวันจันทร์ เดือน12 อาบเมื่อตอนตอนเที่ยงคืนเพื่อชำระให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ชำระร่างกายให้ปราศจากมลทินโทษทั้งปวง

 

3797.สมเด็จรุ่นแรก (เข็มหัก) เนื้อผงพุทธคุณ แช่น้ำมนต์ หลวงปู่พวง วัดน้ำพุ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปี 2555 ปิดรายการครับ

​

​

หลวงพ่อทบสร้างสมเด็จเอาไว้มีคนนำไปใช้แพทย์ฉีดยาไม่เข้าแถมเข็มฉีดยาหักอีกต่างหากมีเพียงพระสมเด็จหลวงพ่อทบองค์เดียวฮือฮาทั้งโรงพยาบาล
พิธีจันทร์เพ็ญฤกษ์งามยามดีกว่าจะหาฤกษ์แบบนี้ยากนักหลวงปู่พวงจึงได้ตั้งใจสร้างพระสมเด็จรุ่นแรกตามครู เริ่มด้วยการลบถมผงปัถมังตามสูตรพ่อทบ ผสมผงปัถมังเก่าพ่อทบพ่อเขียนพ่ออ้วนที่ลบถมไว้หลายสิบปีนำมาผสมกันผสมเข้ากับเกษรดอกไม้ถวายพระประธานทุกวันพระ ผงเก่าสมเด็จวัดระฆังบางขุนพรหมเกศไชโย ผงสมเด็จหลวงพ่อทบทุกรุ่น ผงวิเศษดินอาถรรย์จากการเดินธุดงค์ ว่านสบู่เลือด ว่านไพรดำ ว่านเพชรกลับ ว่านเพชรหลีก ดินโปร่ง ดิน 7 ท่า ดินขุยปู ดินขี้ตะไคล้โบสถ์วัดชนแดน ดินขี้ตะไคล้โบสถ์วัดดงขุย ดินขี้ตะไคล้วิหาวัดน้ำพุสามัคคี ผงพุทธคุณ ผงธูปบูชาพระ เกษาหลวงปู่พวง ข้าวก้นบาตร พระผงหลวงปู่ทวด ปี 97 ผงแร่เหล็กน้ำพี้
พระสมเด็จรุ่นแรกหลวงปู่พวงตั้งใจสร้างอย่างยิ่งเพื่อให้เป็นพุทธานุสติพกติดตัวไว้จะเป็นเมตตามหานิยมไปใหนมาใหนจะแคล้วคลาดดีทำธุรกิจต่างๆจะมีความเจริญก้าวหน้ารวดเร็วทันใจ นิมิตรเห็นหลวงพ่อทบมาบอก
“ไม่ต้องหาของกูแล้วใช้แทนกันได้เลยกูมาทำให้เอง”
หลังปลุกเสกพิธีจันทร์เพ็ญหลวงปู่พวงได้แจกสมเด็จรุ่นแรกชาวบ้านนำไปใช้วันเดียวเกิดประสบการณ์ได้เงินได้ได้ทองเข้าบ้านรวดเร็วทันใจอย่างกับถูกหวย
จำนวนสร้าง
สมเด็จหล่อเนื้อเงินอุดผง 39 องค์
เนื้อนวะเทดินไทยอุดผง 299 องค์
เนื้อโลหะผสม 418 องค์
เนื้อผงพุทธคุณแช่น้ำมนต์โรยแร่เหล็กน้ำพี้บรรจุเกษา 999 องค์
เนื้อผงพุทธคุณบรรจุเกษา 1,999 องค์

 

3798.พระรอด รุ่นแรก หลวงปู่พวง วัดน้ำพุ เพชรบูรณ์ ปลุกเสกเดี่ยว 10 วัน 10 คืน เนื้อก้นครก นิยม ให้บูชา 550 บาท บรรจุเกศา+ตะกรุด คุณshaj จองครับ

​

หลวงปู่พวง เคยดำริไว้ไม่จำเป็นไม่สร้าง ถ้าสร้าง เอาแค่พอสร้างวัดสร้างวาตามสมควร วัตถุมงคลของท่านแต่ละครั้งจึงสร้างออกมาไม่มาก ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกศิษย์และผู้ศรัทธา

หลวงปู่พวงเคยบอกเอาไว้ ของๆท่านล้วนมีเจ้าของ ก่อนพศ.2500 หลวงปู่พวงท่านยังไม่สร้างเครื่องรางของขลัง ใครมากราบ ขอของดีท่านหยิบจับอะไรใกล้มือได้เป็นต้องเสกเป่าแล้วยื่นให้ หลวงปู่บอกว่า “ เอ้า เอาไปนี่แหละของดีข้า ” เชื่อหรือไม่ ใบไม้ ก้อนหิน ก้านธูป ใครได้รับไปมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ รถคว่ำหลายตลบรอดมาได้มีเพียงก้อนหินเสก ของหลวงปู่พวงในคอเท่านั้น ทำไมก้อนหินนี้จึงได้ขลัง หลวงปู่พวงบอกว่าครูฉันสอนแบบนี้เมื่อก่อนหลวงพ่อทบท่านหาอะไรไม่ได้หยิบเอาก้อนหินบ้าง ใบไม้บ้าง ก้านธูปบ้าง เสกเป่าลงอาคมแล้วให้ไปของดีทั้งนั้น จิตดีของก็ดี เมื่อปี 55 หลวงปู่พวงสร้างเหรียญรุ่นแรกเอาไว้ เกิดประสบการณ์กล่าวขวัญไปทั่วเมือง กันปืน กันฟ้า ขวานฟันไม่เป็นไร รถชนไม่เป็นไร ถูกหวย รวยเบอร์ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ขออะไรได้สมหวัง พอสร้างเหรียญมหาเศรษฐีปี 56 ปรากฏว่า รวยกันทั้งบ้านทั้งเมือง สมปรารถนาถ้วนหน้าเพราะมีเหรียญมหาเศรษฐีติดตัวเพียงเหรียญเดียว

หลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรบ้านกล้วย อายุ 140 ปี (ปัจจุบันละสังขารแล้ว) ได้บอกไว้ “ ต่อไปภายหน้าหากว่ากูไม่อยู่ ยังมีพระพวงที่วัดน้ำพุตีนเขารัง แทนกูได้ ”
ไม่จำเป็นไม่สร้าง !!! วัตถุมงคลหลวงปู่พวง ถ้าไม่ถึงกาลไม่ถึงวาระจริงๆ ท่านไม่สร้างถ้าสร้างแล้วทำแล้ว ต้องเสกให้ถึงจริงๆให้เป็นของวิเศษจริงๆ พึ่งพาอาศัยได้จริง ยกชีวิต ยกฐานะได้จริง อุปมาดั่ง พลิกฟ้า พลิกดิน ได้จริง ท่านถึงจะสร้าง ท่านว่าถ้าทำแล้วดีกว่าท่อนไม้หน่อยเดียว จะทำทำไม ?? ถ้าทำแล้วช่วยเขาไม่ได้
เราจะทำทำไม ??? เสียชื่อครูอาจารย์เรา !! ที่วัดน้ำพุสามัคคีจึงไม่สร้างพระพร่ำเพรื่อ.

วัตถุประสงค์ เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะทั้งหมดในวัดน้ำพุสามัคคี และ ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาล
พระรอด รุ่นแรก พระรอดหลวงปู่พวง ท่านสร้างแบบเพชรกลับ กลับร้าย กลายดี หลังยันต์เฑาะ เน้นแคล้วคลาด คงกระพัน พระรอดนี้หลวงปู่พวงบอกว่า “ ไม่ต้องให้เขาบูชาแพง เขาจะได้เอาไปใช้กันได้ พุทธคุณครอบจักรวาลนี้จะช่วยคนได้อีกมาก ต่อให้ข้าไม่อยู่แล้ว พระรอดนี้จะยังคงอยู่เพื่อช่วยลูกหลานข้า ไม่มีวันเสื่อม ” พระรอดชุดนี้สร้างด้วยมนต์เพชรกลับเดินหน้าถอยหลัง ผงมวลสารต่างๆ มีจำนวนมาก ทุกองค์ บรรจุ เกศาหลวงปู่พวง ตะกรุดสาริกามหาลาภ องค์เดียวคุ้มอย่างยิ่ง
จำนวนสร้าง
เนื้อว่านนกคุ้ม สร้าง 1000
เนื้อว่านไพรดำ สร้าง 1000
เนื้อก้นครก สร้าง 1000

 

3798.พระรอด รุ่นแรก หลวงปู่พวง วัดน้ำพุ เพชรบูรณ์ ปลุกเสกเดี่ยว 10 วัน 10 คืน เนื้อก้นครก นิยม ให้บูชา 550 บาท บรรจุเกศา+ตะกรุด

[/QUOTE]​

-ขอจองครับ

ขอจองครับ

 

-ขอจองครับ

ขอจองครับ[/QUOTE]


รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

พระดีที่น่าบูชา พระสมเด็จ พระพุทโธ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปี ๒๕๐๗ หลังยันต์เทาะว์

​

ถือเป็นพระเครื่องยุคต้นๆ ชุดนึงของหลวงปู่โต๊ะ จัดสร้างตั้งแต่ปี ๒๕๐๗
โดยมีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ
1. พระสมเด็จพิมพ์ พระพุทโธ
2. พระพิมพ์จันทร์ลอย
มี 3 สี คือ แดง เขียว ขาว สีแต่ละองค์จะเข้มและอ่อนไม่เท่ากัน
การสร้างได้ใส่น้ำมันหอมผสมกับน้ำ เพื่อให้เนื้อเกิดความชื่อฉ่ำ
ผงครกแรกๆ เนื้อจะออกยุ่ย ครกไม่เหนี่ยวและดำไม่ละเอียดดี
พระชุดแรก แช่น้ำมันต์ บางองค์ก็ติด บางองค์ก็ไม่ติดเนื่องจากเนื้อแน่นมาก บางองค์ก็ละลายเกือบครึ่งบาตร
ภายหลังได้แก้สูตรใหม่ จึงดีขึ้น คุณสงวนได้สร้างต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกือบ 2 ปี

 

3799. 2 องค์สุดท้าย!!! พระรอด รุ่นแรก หลวงปู่พวง วัดน้ำพุ เพชรบูรณ์ ปลุกเสกเดี่ยว 10 วัน 10 คืน เนื้อว่านนกคุ้ม / เนื้อว่านไพลดำ ปิดรายการครับ

​

หลวงปู่พวง เคยดำริไว้ไม่จำเป็นไม่สร้าง ถ้าสร้าง เอาแค่พอสร้างวัดสร้างวาตามสมควร วัตถุมงคลของท่านแต่ละครั้งจึงสร้างออกมาไม่มาก ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกศิษย์และผู้ศรัทธา

หลวงปู่พวงเคยบอกเอาไว้ ของๆท่านล้วนมีเจ้าของ ก่อนพศ.2500 หลวงปู่พวงท่านยังไม่สร้างเครื่องรางของขลัง ใครมากราบ ขอของดีท่านหยิบจับอะไรใกล้มือได้เป็นต้องเสกเป่าแล้วยื่นให้ หลวงปู่บอกว่า “ เอ้า เอาไปนี่แหละของดีข้า ” เชื่อหรือไม่ ใบไม้ ก้อนหิน ก้านธูป ใครได้รับไปมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ รถคว่ำหลายตลบรอดมาได้มีเพียงก้อนหินเสก ของหลวงปู่พวงในคอเท่านั้น ทำไมก้อนหินนี้จึงได้ขลัง หลวงปู่พวงบอกว่าครูฉันสอนแบบนี้เมื่อก่อนหลวงพ่อทบท่านหาอะไรไม่ได้หยิบเอาก้อนหินบ้าง ใบไม้บ้าง ก้านธูปบ้าง เสกเป่าลงอาคมแล้วให้ไปของดีทั้งนั้น จิตดีของก็ดี เมื่อปี 55 หลวงปู่พวงสร้างเหรียญรุ่นแรกเอาไว้ เกิดประสบการณ์กล่าวขวัญไปทั่วเมือง กันปืน กันฟ้า ขวานฟันไม่เป็นไร รถชนไม่เป็นไร ถูกหวย รวยเบอร์ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ขออะไรได้สมหวัง พอสร้างเหรียญมหาเศรษฐีปี 56 ปรากฏว่า รวยกันทั้งบ้านทั้งเมือง สมปรารถนาถ้วนหน้าเพราะมีเหรียญมหาเศรษฐีติดตัวเพียงเหรียญเดียว

หลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรบ้านกล้วย อายุ 140 ปี (ปัจจุบันละสังขารแล้ว) ได้บอกไว้ “ ต่อไปภายหน้าหากว่ากูไม่อยู่ ยังมีพระพวงที่วัดน้ำพุตีนเขารัง แทนกูได้ ”
ไม่จำเป็นไม่สร้าง !!! วัตถุมงคลหลวงปู่พวง ถ้าไม่ถึงกาลไม่ถึงวาระจริงๆ ท่านไม่สร้างถ้าสร้างแล้วทำแล้ว ต้องเสกให้ถึงจริงๆให้เป็นของวิเศษจริงๆ พึ่งพาอาศัยได้จริง ยกชีวิต ยกฐานะได้จริง อุปมาดั่ง พลิกฟ้า พลิกดิน ได้จริง ท่านถึงจะสร้าง ท่านว่าถ้าทำแล้วดีกว่าท่อนไม้หน่อยเดียว จะทำทำไม ?? ถ้าทำแล้วช่วยเขาไม่ได้
เราจะทำทำไม ??? เสียชื่อครูอาจารย์เรา !! ที่วัดน้ำพุสามัคคีจึงไม่สร้างพระพร่ำเพรื่อ.

วัตถุประสงค์ เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะทั้งหมดในวัดน้ำพุสามัคคี และ ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาล
พระรอด รุ่นแรก พระรอดหลวงปู่พวง ท่านสร้างแบบเพชรกลับ กลับร้าย กลายดี หลังยันต์เฑาะ เน้นแคล้วคลาด คงกระพัน พระรอดนี้หลวงปู่พวงบอกว่า “ ไม่ต้องให้เขาบูชาแพง เขาจะได้เอาไปใช้กันได้ พุทธคุณครอบจักรวาลนี้จะช่วยคนได้อีกมาก ต่อให้ข้าไม่อยู่แล้ว พระรอดนี้จะยังคงอยู่เพื่อช่วยลูกหลานข้า ไม่มีวันเสื่อม ” พระรอดชุดนี้สร้างด้วยมนต์เพชรกลับเดินหน้าถอยหลัง ผงมวลสารต่างๆ มีจำนวนมาก ทุกองค์ บรรจุ เกศาหลวงปู่พวง ตะกรุดสาริกามหาลาภ องค์เดียวคุ้มอย่างยิ่ง
จำนวนสร้าง
เนื้อว่านนกคุ้ม สร้าง 1000
เนื้อว่านไพรดำ สร้าง 1000
เนื้อก้นครก สร้าง 1000

 

ขอจองครับ(สมเด็จ 1 องค์และพระรอดทั้ง 2 องค์ครับ)

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

3800. พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พ.ศ.2505 หลังยันต์กลับ (กลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม จัดสร้าง ให้บูชา 750 บาท

​

หลวงพ่อสำเนียงท่านเป็นบุตรของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กับหม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียง จะถือกำเนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพร เป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือน เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย โดยให้นายเอม อยู่สถาพร ซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล


หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม
ท่านเป็นบุตรของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กับหม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ ๕ต.ค.๒๔๖๐ ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่าขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ ๒ เดือน เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาถซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ยโดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก๓ พ่อซึ่งเสด็จเตี่ยคือพ่อผู้ให้กำเนิด นายเอมเป็นพ่อเลี้ยงดูพร้อมกับหลวงปู่ศุขเป็นพ่อผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน
หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คืออยู่สถาพร ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เมื่อเกิดมาแล้วก็ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต จึงได้มาศึกษาในก.ท.ม.ที่ร.ร.อัสสัมชัญ จนจบมัธยมปลายจากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนจบจึงได้รับราชการทหารบกจวบได้รับยศร้อยเอกและเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง ๒ครั้งคือสงครามอินโดจีนและสงครามมหาบูรพา พอกลับจากศึกสงครามถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอาถูกจองจำพร้อมกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม – หลวงเสรี – หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆในข้อหาอาชญากรสงคราม
เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่วัดกัลยาณมิตรฝั่งธนบุรี ท่านตั้งใจบวชเพียง ๑๕ วันแต่พอบวชได้ ๓วันก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีกจึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิงจอมพล ป. พิบูลสงครามได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึกทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย


พบนครร้างในนิมิต
ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะมาบุกเบิกทุ่งร้างกลางป่าทึบให้มาเป็นวัดวาอารามอันพรั่งพร้อมไปด้วย โบสถ์ วิหาร ศาลา โรงธรรมที่สวยงามนั้น ท่านกล่าวว่า – ขณะที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในก.ท.ม.ท่านได้เกิดนิมิตขึ้นว่าได้เห็นปราสาทร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งการนิมิตเห็นนี้ไม่ได้หลับตาเห็น แต่เป็นแบบลืมตาเห็นภาพขึ้นมา เมืองร้างแห่งที่ท่านพบเห็นในนิมิตนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่มากมายมหาศาล คนเฝ้าสมบัติล้ำค่านี้บอกกับท่านว่า….
ใครจะมาเอาสมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ คนที่จะมาเป็นเจ้าของจะต้องมาสร้างเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเหมือนเดิมเสียก่อน และคนที่จะมาอยู่เมืองนี้ได้จะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาความเจริญขึ้นมาไม่ได้นอกจากพินาศล่มจมเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งเมืองธรรมานครอมรวดีศรีธานินทร์ มหินทรามหาเลิศลบภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์มาก่อน
หลังจากหลวงพ่อสำเนียงได้นิมิตเห็นเมืองธรรมานครแล้วท่านเดินทางสู่เมืองร้างแห่งนี้โดยทางรถไฟไปลงสถานีงิ้วราย จากนั้นลงเรือต่อไปตลาดลำพญาต่อเรือไปอีก๓ ช.ม.จึงถึงตลาดลำพญาจากตลาดเดินเท้าอีก๔ ก.ม.โดยประมาณจึงถึงวัดแหลมชะอุย เป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าเหลือแต่ซากปรักหักพัง พอให้รู้ว่าสถานที่นั้นเคยเป็นวัดมาก่อนที่ๆแห่งนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด
ทำให้สถานที่นั้นร่มรื่นและเงียบสงัดวังเวงยิ่งนัก จึงมีสัตว์นาๆชนิด เช่นงูเห่า งูจงอางเป็นต้นเพราะปราศจากผู้คนสัญจรไปมา มีแต่บริเวณทุ่งกว้างที่ร้างซึ่งมีเด็กเลี้ยงควายอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น เด็กพวกนั้นปราศจากเสื้อผ้านุ่งห่มเพราะความแห้งแล้งทุรกันดารความยากจนของครอบครัว พ่อแม่เด็กเหล่านั้นหากินทางทุจริตลักลอบหาวัตถุโบราณในบริเวณวัดร้างแห่งนี้เพื่อนำเอาไปขาย
เมื่อท่านไปถึงท่านได้เดินเข้าไปดูในโบสถ์ปรากฏว่าถูกปัดกวาดดูสะอาดสะอ้าน คล้ายกับมีคนมาอาศัยอยู่ ท่านจึงตัดสินใจที่จะอยู่ ณ. วัดร้างแห่งนี้ โดยท่านตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านในถิ่นนี้ให้เจริญ ท่านจึงได้ยึดเอาโบสถ์เป็นที่อยู่อาศัย แต่ท่านหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่องสุมของพวกโจรและเสือร้ายปล้นฆ่าชื่อดัง คือ เสือแคล้ว เสือสด เสือเลียง เสือสมหมาย เสือผาด ทั้ง ๕เสือดังกล่าวทางการได้หมายหัวเอาไว้แล้วว่าต้องจับตายลูกเดียว พวกนี้หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาแบ่งปันที่นี่ประจำเพราะเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างจังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี มีอยู่วันหนึ่งเสือร้ายเหล่านั้นปล้นทรัพย์ได้มาก็นัดกันมาแบ่งสมบัติที่โบสถ์ร้างแห่งนี้ เมื่อเสือแคล้วมาแอบเห็นหลวงพ่อสำเนียงอยู่ในวัดก็สบถจะต้องฆ่าพระองค์นี้ให้ได้ เพราะกลัวท่านมารู้เห็นความลับ อีกหรือท่านปลอมมาเป็นพระเพื่อมาสืบจากทางราชการ เสือแคล้วจึงตกลงกับพวกอีก๔ เสือจะต้องฆ่าท่านคืนแรกเสือแคล้วมาคนเดียวก้าวเข้าไปยืนในโบสถ์เห็นเพียงแสงเทียนสลัวๆพอเห็นว่ามีพระนั่งสมาธิอยู่ เมื่อเพ่งเข้าไปหมายจะฆ่าหลวงพ่อปรากฏว่า คุณพระช่วยภาพที่เขามองเห็นไม่ได้มีพระอยู่องค์เดียวเหมือนที่เขาเห็นตอนกลางวันเสียแล้ว เพราะภายในโบสถ์เต็มไปด้วยพระสงฆ์ห่มสีกลักกำลังนั่งสมาธิเต็มไปหมด พระเหล่านั้นต่างนั่งสมาธิอย่างสงบโดยไม่สนใจกับภายนอกโบสถ์เลย
เสือแคล้วนึกอยู่ในใจว่าพระมาจากไหนเยอะแยะก็ตอนกลางวันเห็นมีอยู่องค์เดียว ส่วนมือยังกำปืนแน่นอยู่ในลักษณะพร้อมยิงเสมอ ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะไม่ทราบว่าจะทำวิธีไหนที่จะฆ่าพระได้หมด หลังจากนั้นสหายอีก๔ เสือก็ผลัดกันมาทุกคืนโดยผลัดเปลี่ยนกันกับเพื่อนทุกคนในกลุ่ม ผลปรากฏว่าเหตุการณ์เหมือนกันทุกครั้ง ๔วันเต็มๆ
ผลสุดท้ายเขาและเพื่อนยอมแพ้ในอภินิหารที่ได้ประสพมาจึงไม่อาจฆ่าท่านได้ ซึ่งคงเป็นเพราะบารมีของท่านซึ่งปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเสมอมานั่นเอง เช้าของวันที่ ๕ พวกเสือร้าย ๕คนได้ปรึกษาหารือกันเข้าไปกราบหลวงพ่อสำเนียงในโบสถ์และเล่าความจริงให้ท่านฟัง พวกเขาแนะนำตัวเองหลวงพ่อจึงถามไปว่า โยมพากันมาทำไมที่นี่ เสือแคล้วและพวกจึงสารภาพว่าต้องการมากราบขอขมาหลวงพ่อ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่พวกเขา
หลวงพ่อท่านว่า เวรของผู้จองเวรย่อมไม่ระงับ แต่เวรของผู้ที่ไม่จองเวรย่อมระงับ อาตมาอโหสิให้ แต่กรรมโยมได้กระทำไปนั้นไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน กรรมนั้นย่อมตอบสนองในภายหลังไม่มีใครให้อภัยได้ ดังนั้นขอโยมจงหยุดการกระทำชั่วนั้นๆเสียแล้วให้เริ่มทำความดีต่อไป หมั่นรักษาศีลเพราะศีลจะทำให้ผู้ปฏิบัติให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทั้งในภพปัจจุบันนี้และจะนำสู่สุขคติและนิพพานในภพหน้า เมื่อได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เสือร้ายทั้ง๕ สำนึกผิดและซาบซึ้งในโอวาทของหลวงพ่อสำเนียง พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามจึงได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมได้ปวารณาตัวว่าจะเลิกทำชั่ว แล้วตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อไป นี่แหล่ะคือสัจธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ให้ชาวโลกละความชั่ว ประพฤติแต่ความดีในที่สุดธรรมะย่อมชนะอธรรม สมดังที่พระองค์ตรัสไว้ทุกประการ สาธุ

 

สวัสดีตอนเช้า

 

​

 

3801.พระปรกโพธิ์กรรมการพิมพ์หน้ากากสำริด หลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง ด้านหลังฝังตะกรุด 16 ดอก เม็ดพระธาตุ ผงวิเศษหลวงพ่อกวย,ฝังพลอยโครตเศรษฐี หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง ปี2553 ให้บูชา 800 บาท เลี่ยมกันน้ำพร้อมบูชา สร้างจำนวน 999 องค์ คุณpong_ping จองครับ

​

พระปรกโพธิ์ รุ่นแรก ที่ออกมาก่อนหน้า ชนิดหน้ากากสำริด ฝังตะกรุด หมดทุกรายการ ฝังตะกรุด 9 ดอกหมดก่อน ตามมาด้วยตะกรุด 5 ดอก มีคนเอาไปใช้ พบเจอประสบการณ์มากมาย เล่าให้หลวงพ่อฟังทุกวัน ล้วนแล้วแต่ชีวิต หน้าที่การงานดีขึ้นทั้งสิ้น บางรายอธิฐานขอในสิ่งที่เป็นไปแทบไม่ได้ แต่กลับได้สมความปรารถนา บางรายบอกว่า พุทธคุณดีกว่าพระเก่า ที่เขาเช่ามาองค์ละเป็นแสน ๆ เสียอีก ทำให้เกิดภาวะ หาของไม่ได้ และ ราคาบูชาขยับสูงขึ้นกว่าเดิมมาก ตามศูนย์พระเครื่อง มีลูกค้าถามหาขอเช่าต่อปกโพธิ์หลวงพ่อแป๋วทุกวัน หลายท่านให้เงินจองก่อน แต่หาของให้ลูกค้าไม่ได้ นี่คือเรื่องจริงเพราะประสบการณ์ที่พบเจอ เล่าต่อกันปากต่อปาก ยิ่งรู้ว่า ผสมผงเก่า และดินหัวนอนหลวงพ่อกวย ด้วยแล้ว จึงใช้แทนพระปกโพธิ์หลวงพ่อกวย ที่ราคาองค์ละหมื่น ละแสน ได้อย่างสนิทใจที่สุด

ครั้งนี้ อย่าพลาด ปรกโพธิ์หน้ากากสำริด หลังฝังตะกรุด 16 ดอก เพราะสร้างน้อย แค่ฝังตะกรุดก็เหนื่อยแล้ว ยิ่งหลวงพ่อเอาผงเก่ามาผสมเข้มข้นยิ่งกว่าเก่า ยิ่งทำในวาระมงคลสร้างมณฑป ยิ่งวิเศษเข้าไปอีก เรียกว่า ดีซับดีซ้อน ดีนอกดีใน ใช้พระดีซ้ำดีซ้อน ดีนอกดีใน ชีวิตเราก็ต้องดีซ้ำ ดีซ้อน ดีนอก ดีในตามนั้น แน่นอนที่สุด ของมงคลอย่างนี้ มีบุญต้องกัน มีศรัทธา จึงได้บูชา เพราะเป็นของเสริมโชค ชะตา พลิกดวง!!!

หลวงพ่อแป๋ว สร้างพระพิมพ์ปรกโพธิ์สืบวิชาสายหลวงพ่อกวยไว้ จะทำให้ขลัง และดีที่สุดเหนือกว่าพระปรกโพธิ์ในยุคนี้ มวลสารชั้นคือ ผงพุทธคุณ ผงพระแตกหัก หลวงพ่อกวย, ผงหลวง่พอเชน ผงห้องนางธรณีชระมาร, อีกมากมาย ปลุกเสกอ้างเอา 3 บารมีคือ บารมีของพระพุทธเจ้า ที่ชัยชนะเหนือมารทั้งปวง บารมีของแม่พระธรณี หนักแน่น มั่นคงดุจแผ่นดิน อุ้มชู อุปถัมภ์ กลับดวง ฝืนดวง พลิกฟื้นดวงชะตาพลิกฐานะร่ำรวย ร่มเย็น อ้างเอาบารมีของหลวงพ่อกวย ที่รักศิษย์ห่วงศิษย์ ดุจพ่อรักลูก "กูเป็นครูเขา เป็นพ่อเขา กูไม่ทิ้งศิษย์ มันนึกถึงกู กูก็นึกถึงมัน" และคำพรว่า "ขอศิษย์ทั้งหลายจงอย่าอด อย่าอยาก อย่ายากอย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าใคร"

พระปรกโพธิ์รุ่นแรกนี้ ถ้าฝืนเอาไปเทียบกับพระของหลวงพ่อกวย ต้องว่า เทียบกันไม่ติด ยังใช้ไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับพระปรกโพธิ์ของพระเกจิอาจารย์อื่นยิ่งเป็นเกจิในยุคเดียวกัน แล้ว หลวงพ่อแป๊ว ว่า "ของกูไม่เป็นสองรองใคคร" และ "พระนี้ร่มเย็น ร่ำรวย ถ้ามึงนับถือจริง เปลี่ยนชีวิตมึงได้" และ "กูก็ศิษย์อาจารย์กวย ตอนกูเสกก็เชิญท่านมาเสก กูไม่ทำให้เสียชื่อท่านหรอกน๊ะ" จึงเป็นโอกาสดีที่จะเช่ามาบูชากัน

พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงพ่อแป๋ว" วัดดาวเรือง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของท่านกำลังได้รับ ความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม พระครูปัญญาวิมล เป็นเจ้าคณะตำบล พระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันสิริอายุ 77 ปี บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี เมื่อปี 2496 โดยมี พระราชสิงหมุนี พระครูรัตนาธาร(หลวงพ่อเยื้อน) และพระมหาจำลอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตามประวัติท่านร่ำเรียนวิชาในสาย "หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์"ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อแพ วัด พิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค และเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์

"หลวงพ่อแป๋ว" ท่านสืบวิชาตำราโบราณผ่านทางหลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ ในสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ในสาย หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผ่านทางหลวงพ่อเชน วัดสิงห์ ในสายหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มนต์จินดามณี ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ในสายหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว ยันต์ค่ายกล ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ในสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค

คนเมือง สิงห์รู้ดีว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง มีพุทธคุณเด่นดังเพียงใด ท่านออกเหรียญรุ่นแรก ตั้งแต่ปี 2526 ปัจจุบันสนน ราคาเล่นหากว่าครึ่งหมื่น ท่านทำตะกรุดคงกระพันชาตรีแคล้วคลาดติดอันดับต้นๆ ของเมืองสิงห์บุรี ทำเครื่องรางของขลังผ้าขอด 9 ขอด ทำแหวนพิรอดหัวตะกร้อ กันเขี้ยวงา ว่ากันว่างูอ้าปากไม่ขึ้น สุนัขกัดไม่เข้า ตะขาบกัดไม่บวม ปลิงแกะลื่น ท่านทำผ้ายันต์กันไฟ ตอนไฟไหม้โบสถ์ มีคนเห็นยันต์เป็นเส้นสีแดงคลุมวัด แต่กฎของกรรมฝืนไม่ได้ ท่านบอกเทวดามาช่วยสร้างโบสถ์ เสร็จใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี

 

ปิดค่ะ

 

รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ

 

3802.พระผงผสมเกศา 3 เกจิอาจารย์หลวงพ่อแช่ม, หลวงพ่อล้ง, หลวงพ่อเต้า พิมพ์ระฆังแตก หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร ปี 2535 ให้บูชา 550 บาท

​

เนื่องในปี 2535 หลวงพ่อเต้า อายุ ครบ 85 ปี ได้จัด พิธีมหาพุทธาพิเษกวัตถุมงคล เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี 2535 ที่วัดเกาะวังไทร
โดยมีพระอาจารย์ มานั่งปรกปลุกเสก คือ
หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวก
หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง
หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดง
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ
หลวงพ่อยิด วัด หนองจอก
หลวงพ่อสมศักดิ์ วัดธรรมศาลา
หลวงพ่อวัง วัดทุ่งรี (หลานหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง)
และ หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร

 

3803.เหรียญเศรษฐีนับเงิน ๑๐๘ คาบรวย๑๐๘ เนื้อทองแดง หลวงปู่ญาท่านโทน วัดบ้านพับ(เนื้อทองแดงเก่าชนวนโบราณ) จำนวนการจัดสร้าง ๔,๑๑๑ เหรียญ ให้บูชา 550 บาท พิเศษเหรียญนี้มีรอยจารหลวงปู่

​

หลวงปู่ญาท่านโทน สร้างเพื่อให้มีอานุภาพ ถึง ๑๐๘ ประการ เป็นเหรียญท่านั่งชันเข่าเอกลักษณ์ของหลวงปู่ญาท่านโทน ที่ใครไปกราบก็เห็นญาท่านชอบนั่งชันเขา และยิ่งกว่านั้นเมื่อ หลวงปู่ญาท่าน นั่งชันเข่าชักลูกประคำทำสมาธิ เป็นการเจริญวิปัสสนาบทพระคาถามหาเศรษฐี ช่วยลูกหลาน ให้ได้ ๑๐๘ คาบตามประคำสายดำ ที่ญาท่านเก่งกาจสำเร็จ วิชานี้ประคำสายดำดังไปทั่วประเทศ ประคำสายดำ ปืนไม่ได้กิน เจ้าถิ่นต้องแพ้พ่าย สร้างเป็นเหรียญ มีเกาะเพชรล้อมองค์ หลวงปู่ญาท่านถึง ๓ ชั้น ลงตัวและสวยงาม
ชั้นที่ ๑ อักขละตัวเมืองอีสานเป็นคาถากำแพงแก้ว ๗ ชั้น ป้องกันผู้ใช้ให้ปลอดภัย อาวุธิ ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น
ชั้นที่ ๒ เป็นยันต์ อุณาโลม ๕ พระองค์ บันดาลให้เกิดความผาสุก ความเจริญความก้าวหน้า รุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป
ชั้นที่ ๓ เป็น ประคำสายดำ ๑๐๘ เม็ด อัฐเชิญพระพุทธานุภาพ 56 ประการ พระธรรมมานุภาพ 38 ประการ พระสังฆานุภาพ 14 ประการ เป็นมงคลสูตรครอบจักรวาล ถอดได้เป็น ๗ ข้อคือ
๑) ป้องกันศาสตรา ทั้งให้แคล้วคลาด นิราศไพรี
๒) ภูตผีปีศาจ มิอาจเข้ามา ทั้งปอบทั้งห่า ไม่มาหลอกหลอน
๓) เป็นที่เสน่หา แก่ชนนิกร เห็นเราอกร้อนสะท้อนกายา
๔) ทุกข์ภัยพิบัติ อย่าลิราญรอน โรคภัยทุกร้อนต้องรีบ บรรเทา
๕) กันเสือช้างม้ามาทำร้ายเรา เป็นนะจังงัง แก้ คุณคนคุณไสย
๖) สารพัดพาลา พ่ายแพ้ฤทธีแก้คนใจแข็ง มานะแรง มีใจอ่อนทันที ไม่มีเย่อหยิ่ง
๗) เสนียดจัญไร มิได้เงยหัว ไล่พ้นจากตัว เรื่องชั่วไม่มีทุกประการแล

เหรียญ นี้ หลวงปู่ญาท่านเสกด้วยบท “มหาเศรษฐี” ที่ใช้แล้วรวยมีลาภมาก อีก 108 คาบ
ด้านหลังเป็นยันต์ “สมปรารถนา ๘ ทิศ ” บันดาลให้มีความสุขสมหวังทุกประการ
ปรารถนายศ ได้ยศ ปรารถนาทรัพย์ ได้ทรัพย์ ปรารถนาแก้วแหวนเงินทองได้สมปรารถนา ปรารถนาความสำเร็จ ได้ผลดังใจเราทุกอย่างไป
เหรียญเศรษฐีนับเงิน 108 คาบ จัดสร้าง ปี 2554
-เนื้อเงินจำนวน 111 เหรียญ
-เนื้อนวโลหะ พรายเงินจำนวน 511 เหรียญ
-เนื้อสตางค์เก่าจำนวน 3,191 เหรียญ
-เนื้อทองแดงเก่า จำนวน 4,111 เหรียญ

"เหรียญเศรษฐีนับเงิน 108 คาบ" หลวงปู่ญาท่านโทน ปลุกเสกด้วยบท "มหาเศรษฐี" ที่ใช้แล้วรวยมีลาภมากอีก 108 คาบ เหรียญนี้เมื่อจัดทำเสร็จแล้ว มีชาวอุบลราชธานีมาทำงานในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพฯ ได้เดินทางไปกราบญาท่านถึงที่วัด พอลาท่านแล้วเดินออกมาหน้ากุฏิ หลวงปู่ญาท่านโทนก็ได้เรียกกลับเข้าไปหา และได้หยิบเหรียญที่ท่านพกไว้ในอังสะมอบให้ แล้วบอกว่า "รวยหลายหลายเด้อ" จากนั้นก็กราบท่านแล้วลากลับพอถึงบ้านที่กรุงเทพฯ มีคนขี่จักรยานเอาลอตเตอรี่มาขายที่หน้าบ้าน ในกระเป๋าเสื้อยังมีเหรียญนี้ติดกระเป๋าอยู่ จึงจับเหรียญแล้วอธิษฐาน หยิบมา 1 ชุด พอหวยออกงวดวันที่ 1 กันยายน ปรากฏว่า ถูกรางวัลที่ 2 ได้รับเงินไปหลายแสนบาท เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปเหรียญนี้จึงโด่งดังในจังหวัดอุบลราชธานีอย่างมาก และได้เพิ่มคำว่า "เศรษฐี" ไว้ข้างหน้าเหรียญ เพราะแต่เดิมเหรียญนี้เรียกว่า "เหรียญนับเงิน 108 คาบ" เท่านั้น

 

พระดีที่น่าบูชา พระเนื้อว่านชานหมาก ส.ข.1 พิมพ์ประจำวันเสาร์ นาคปรกพิมพ์ใหญ่ เนื้อชานหมากยุคแรก..ด้วยที่ว่าวัตถุมงคลชุดนี้สร้างมาเกือบ50ปีจึงทำให้เกิคราบไขว่านบ่งบอกถึงความเก่าที่มีเสน่ห์และมนต์ขลัง..พระเนื้อว่านพิมพ์ประจำวันเป็นพระที่พ่อท่านคล้ายได้สร้างใว้สำหรับวันต่างๆและพ่อท่านคล้ายจะกำกับคาถาโดยเฉพาะของแต่ละวัน

​

พระเนื้อว่านพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน สข1เป็นพระเนื้อว่านของพ่อท่านคล้ายที่สร้างขึ้นที่วัดสวนขันเป็นการสร้างพระเครื่องครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพ่อท่านคล้ายในบรรดาพระเครื่องที่ท่านสร้างไว้ทั้งหมดเพราะทำการปลุกและสมโภชที่วัดสวนขันเองตลอด7วัน7คืน.. ว่านที่ใช้ในการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อเดชซึ่งเป็นรองเจ้าอาวาสต่อจากพ่อท่านคล้ายในสมัยนั้นได้ทำการสะสมรวบรวบรวมเป็นเวลานานนับ10ปีและประกอบกับผงว่านต่างๆที่อาจารย์ขุนพันธ์ได้มอบถวายให้จึงเป็นมูลเหตุแห่งการสร้าพระผงรูปเหมือนและ ส.ข.พิมพ์ต่างๆของพ่อท่านคล้ายเพราะคำกล่าว*ของพ่อท่านคล้ายที่ว่า เราอยากจะสร้างพระไว้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่และเป็นปฐมฤกษ์ไว้ให้ลูกหลาน*โดยจัดพิธีให้เป็นทางการสักครั้งหนึ่งโดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่สนิทสนมกันมากเป็นผู้ปลุกเสกด้วยอาทิ อาจารย์ทิม วัดช้างให้ อาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลวงพ่อแดง วัดภูเขาหลัก ท่านอาจารย์หมุนวัดเขาแดงและเกจิเขาอ้ออีกมากมายแม้กระทั่งพราหมณ์ช่วยในการประกอบพิธีพ่อท่านคล้ายก็เป็นคนเลือกเอง โดยพราหมณ์ที่จะเข้ามาในพิธีต้องถือศีลมาก่อน ก่อนจะเข้าพิธีได้ โดยพ่อท่านคล้ายนั้งปรกปลุกเสกเองไม่ขาดเลยแม้กระทั้งวันเดียวตลอด7วัน7คืนจำนวนการสร้างนั้นไม่มากเพราะผงว่านวิเศษต่างๆมีน้อยหลายๆท่านอาจยังไม่ทราบข้อมูลประวัติการสร้างรุ่นนี้ อนึ่งข้อมูลประวัติในการสร้างนั้นมีบันทึกตลอดจนภาพถ่ายต่างๆก็ยังอยู่แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ภาพเหล่านั้นเป็นภาพที่พ่อท่านคล้ายเซ็นกำกับลายและห้ามเผยแพร่(จากคำบอกเล่าของพราหณ์ที่อยู่ในพิธีตลอดซึ่งตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่และยังเป็นลูกศิษย์คนสนิทของอาจารย์นำและพ่อท่านคล้ายด้วย) ในการทำพิธีนี้ได้วัตถุมงคลไม่มากเพราะผงว่านพิเศษมีน้อย อาทิเช่น พระรูปเหมือนพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก นางกวัก และพระประจำวันพิมพ์ต่างๆ โดยพิมพ์พระพุทธ(นางพญา)จะให้ไว้สำหรับผู้ชายที่จำวัน/เดือน/ปีเกิดตัวเองไม่ได้และพิมพ์น้ำเต้าไว้สำหรับผู้หญิงทีจำวัน/เดือน/ปีเกิดตัวเองไม่ได้ ฉนั้นวัตถุมงคลในพิธีนี้จึงเป็นที่น่าบูชาและพกติดตัวเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวเพราะพ่อท่านตั้งใจทำมา

 

3804.เหรียญพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิขุ เนื้อทองแเดง รุ่น เมตตามหาลาภ(พิมพ์ใหญ่) ให้บูชา 650 บาท

​

จัดสร้างโดยพุทธอุทยาน สังเวชนียสภาร วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี 2562
พระครูบาพ่อบุญชุ่ม บอกว่า เราจะเข้ากรรมปฏิบัติธรรมในถ้ำเมืองพม่า 3 ปี เป็นประมาณ เรายินดีอนุโมทนาอนุญาต อย่างเป็นทางการในการจัดสร้าง
วัตถุมงคลรุ่นนี้ ตามเจตนารมณ์ของตุ๊ลูก วัดดอยเวียง พร้าว จะสร้างพุทธอุทยาน พิพิธภัณฑ์ ถวายครูบาพ่อบุญชุ่ม และได้นำเหรียญ ชนวนทุกเนื้อ มาให้อธิษฐานจิตเป็นมงคลปฐมฤกษ์ ท่ามกลางพระรัตนตรัย ท่านบอกว่า ดีหมดเลย เราอนุญาตแล้ว ศักดิ์สิทธ์ทุกเหรียญ และให้ไปสมโภชใหญ่ ในอุโบสถวิหาร พระเจ้าเก้าตื้อ วัดสวนดอก เชียงใหม่ อันเป็นสถานที่อุปสมบทของพระครูบาพ่อ ประกาศเจตนารมณ์ให้ลูกศิษย์ได้สร้างบุญกับท่าน เมตตาหาประมาณมิได้

พิธีเถราภิเษกวัตถุมงคล รุ่นเมตตามหาลาภ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อธิษฐานจิต ณ พระอุโบสถพระเจ้าเก้าตื้อ วัดสวนดอก วันเสาร์ที่ 11/5/62 เวลา16.19 น.

หลังจากครูบาบุญชุ่มได้เข้าถ้ำถือศีลภาวนา ถือสัจจะปิดวาจา ครบ3 ปี 3เดือน3วัน ที่ถ้ำราชคฤห์จ.ลำปาง ในวันที่20-21ก.ค.56 ได้ออกจากถ้ำ

ในบางช่วงบางตอนของคำเทศนาของท่านได้กล่าวว่า ท่านบำเพ็ญมาทางพระโพธิสัตว์ ได้รับพุทธาพยากรณ์แล้วว่าจักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล มีพระนามว่า พุทธรังสีมุนีนาถ ต่อจากพระศรีอารย์เป็นลำดับที่ 6 องค์ เมื่อสิ้นภพจากครูบาบุญชุ่มนี้ เป็นเวลากาลนานจะได้ลงมาครั้งอีกหนึ่ง ครั้งสุดท้าย ครั้งนั้นจักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

คุณธนอรรถ ตรีธิติธัญ ผู้สร้างเหรียญครูบาบุญชุ่ม

รุ่นบุญมหาลาภ มหาพุทธเมตตาบารมี 60

ในปีพ.ศ.2535 คุณธนอรรถได้ไปกราบพระรูปหนึ่ง ซึ่งลูกศิษย์ของพระรูปนี้ได้ร่ำลือกันว่าถ้าหากใครอยากจะร่ำรวยให้ไปกราบครูบาบุญชุ่มเพราะท่านวาจาศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นคุณธนธรรถทำธุระกิจเหล็กเส้น ในปี39ได้ประสบปัญหาทางธุระกิจ โดนยึดทรัพย์มีหนี้ร้อยกว่าล้าน ในปี49ได้ไปกราบครูบาบุญชุ่ม ครูบาชุ่มได้พูดว่าต่อไปอาเฮียจะรวยมากไม่เกิน5ปี พอได้กลับมา ในปี50ได้กู้เงินนอกระบบมาตั้งโรงงานทำธุระกิจอาหารเสริม สิ้นปี51ยอดขาย18ล้าน ปี52ยอดขาย35ล้าน ปี53 ก่อนครูบาบุญชุ่มจะเข้าถ้ำงาว7วันถ้ำได้เรียกคุณธนอรรถให้ไปพบ ครูบาได้ปั้นข้าวปลอกกล้วยให้คุณธนอรรถได้กิน ควักเงินให้5000แล้วพูดว่าเอาไปเป็นทุนครูบาหุ้นด้วย และพูดว่าจำไว้ให้ดีนะปี54อาเฮียจะรวยมาก พอสิ้นปี53ปิดยอดขาย75ล้าน ในปี54นี้คุณธนอรรถได้เพิ่มกำลังการผลิตได้ตั้งเป้าปิดยอดขายที่650ล้าน พอสิ้นปี54ได้ปิดยอดขาย1200ล้าน ได้ร่ำรวยตามวาจาที่ครูบาบุญชุ่มได้พูดไว้

คาถาครูบาบุญชุ่ม ที่ให้คุณธนอรรถไว้ใช้
โอม นะโมพุทธายะ มหาลาภัง ภะวันตุเม